Music Hit In your life

วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ขอไว้อาลัยกับ เจ้าพ่อ Apple "สตีฟ จ็อบส์"


ทางบล็อกเกอร์ "http://computertru.blogspot.com/" ขอไว้อาลัยกับเจ้าพ่อ Apple "สตีฟ จ็อบส์" ครับ

สุนทรพจน์ของสตีฟ จ็อบส์ ผู้ก่อตั้ง Apple ในพิธีจบการศึกษามหาวิทยาัลัยสแตนฟอร์ด ปี 2005 ถือเป็นสุนทรพจน์ที่ดีมากที่สุดอีกครั้งหนึ่ง www.kitticharn.com

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ประวัติ และข้อคิดจาก สตีฟ จอบส์


สตีเฟน พอล "สตีฟ" จอบส์ (เกิด 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1955) เป็นผู้นำธุรกิจและนักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน ผู้ร่วมก่อตั้ง ประธาน อดีตประธานกรรมการบริหารของแอปเปิลคอมพิวเตอร์ และยังเคยเป็นประธานกรรมการบริหารพิกซาร์แอนิเมชันสตูดิโอส์ และเป็นคณะกรรมการบริหารบริษัทเดอะวอลต์ดิสนีย์ใน ค.ศ. 2006 หลังดิสนีย์ซื้อกิจการพิกซาร์
เขาร่วมก่อตั้งแอปเปิลคอมพิวเตอร์กับสตีฟ วอซเนียก ใน ค.ศ. 1976 เป็นผู้มีส่วนช่วยทำให้แนวความคิดเรื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเป็นที่นิยมขึ้นมา ด้วยเครื่อง Apple II ต่อมา เขาเป็นผู้แรกที่มองเห็นศักยภาพทางการค้าของส่วนประสานงานผู้ใช้แบบกราฟิกส์และเม้าส์ ที่ถูกพัฒนาขึ้นในศูนย์วิจัยซีร็อกซ์พาร์ค ของบริษัทซีร็อกซ์ และได้มีการผนวกเทคโนโลยีเหล่านี้เข้าไว้ในเครื่องแมคอินทอช หลังพ่ายแพ้ในการแย่งชิงอำนาจกับคณะกรรมการบริหารใน ค.ศ. 1984 จ็อบส์ลาออกจากแอปเปิลและก่อตั้งเน็กซ์ บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะในการศึกษาขั้นอุดมศึกษาและตลาดธุรกิจ การซื้อกิจการเน็กซ์ของแอปเปิลใน ค.ศ. 1996 ทำให้จ็อบส์กลับเข้าทำงานในบริษัทแอปเปิลที่เขาร่วมก่อตั้งขึ้นนั้น และเขารับหน้าที่ CEO ตั้งแต่ ค.ศ. 1997 ถึง 2011 จ็อบส์ยังเป็นประธานกรรมการบริหาร และผู้บริหารระดับสูงของพิกซาร์แอนิเมชันสตูดิโอส์ ผู้นำด้านการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชันด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ ทั้งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ 50.1% กระทั่งบริษัทวอลต์ดิสนีย์ซื้อกิจการไปใน ค.ศ. 2006 จ็อบส์เป็นผู้ถือหุ้นมากที่สุดของดิสนีย์ที่ 7% และเป็นสมาชิกคณะกรรมการบริหารของดิสนีย์
สตีฟ จอบส์ เกิดที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย มีชื่อจริงว่า สตีเวน พอล จอบส์ เป็นบุตรบุญธรรมของนายพอล และนางคลารา จอบส์ (สกุลเดิม ฮาโกเพียน) ต่อมาพ่อแม่บุญธรรมก็รับผู้หญิงมาเป็นบุตรบุญธรรมอีกคน ชื่อ แพตตี้ ส่วนบิดามารดาที่แท้จริงของจอบส์ เขามีบิดาชื่อ นายอับดุลฟัตตะห์ จันดาลี ชาวซีเรียมุสลิม นักศึกษา (ในขณะนั้น) แต่ต่อมาได้ทำงานเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยสาขารัฐศาสตร์ กับนางโจแอน ซิมป์สัน นักศึกษาชาวอเมริกัน ต่อมาได้ทำงานเป็นวิทยากรในการบำบัด ต่อมาภายหลังบิดามารดาได้สมรสกันและให้กำเนิดน้องสาวร่วมสายเลือดของจอบส์ คือ โมนา ซิมป์สัน นักแต่งนวนิยาย
ในปีค.ศ. 1972 จอบส์จบการศึกษาจากโฮมสตีดไฮสคูล ในเมืองคิวเปอร์ทีโน มลรัฐแคลิฟอร์เนีย และได้สมัครเข้าเรียนต่อที่วิทยาลัยรีด (Reed College) ในเมืองพอร์ตแลนด์ มลรัฐโอเรกอน แต่ก็ต้องลาพักการเรียนหลังจากเข้าเรียนได้เพียงหนึ่งภาคการศึกษา หลายปีต่อมา ในปาฐกถาครั้งหนึ่งในพิธีสำเร็จการศึกษาของบัณฑิตมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ปีค.ศ. 2005 จอบส์ได้กล่าวว่าเขายังคงศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยรีด รวมทั้งเข้าชั้นเรียนคัดตัวหนังสือ "ถ้าผมขาดเรียนวิชานั้นไปเพียงวิชาเดียวที่วิทยาลัยรีด เครื่องแมคอินทอชคงจะไม่มีรูปแบบอักษรหลากหลาย และปราศจากฟอนต์ที่มีการแบ่งระยะห่างอย่างถูกสัดส่วนเช่นนี้" จอบส์กล่าว

สุนทรพจน์ของสตีฟ จ็อปส์ (Steve Jobs) 


“คุณต้องค้นหาสิ่งที่คุณรักให้พบ”
(You’ve got to find what you love)


“คุณต้องค้นหาสิ่งที่คุณรักให้พบ”
นี่เป็นสุนทรพจน์ที่กล่าวในงานรับปริญญาโดยสตีฟ จ็อปส์ CEO ของ Apple Computer และ Pixar Animation Studios เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2005 ที่ผ่านมา
ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มาร่วมงานกับทุกคนวันนี้ในงานรับ ปริญญาของมหาวิทยาลัยที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลก ผมไม่เคยเรียนจบสูงขนาดนี้ มันเป็นความสัตย์จริง นี่เป็นระดับสูงที่สุดที่ผมสำเร็จจากสถาบันอุดมศึกษา วันนี้ผมอยากจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของผมให้ฟังสัก 3 เรื่อง ไม่มีอะไรมาก แค่เรื่อง 3 เรื่อง
เรื่องแรกเป็นเรื่องของการเชื่อมต่อเรื่องราวต่างๆ
ผมตัดสินใจหยุดเรียนชั่วคราวหลังจากเข้าเรียนที่ Reed College ได้ประมาณ 6 เดือน แต่ก็ยังไปเรียนอยู่ประมาณ 18 เดือนก่อนที่จะลาออกจริงๆ ทำไมผมถึงเลือกที่จะหยุดเรียนชั่วคราวหล่ะ?
เรื่องมันเริ่มตั้งแต่ผมเพิ่งลืมตามาดูโลกนี้ แม่บังเกิดเกล้าของผมขณะนั้นอายุยังน้อย ยังไม่ได้แต่งงาน และยังเรียนหนังสือระดับอุดมศึกษาอยู่ ท่านก็ตัดสินใจที่จะพาผมไปฝากเลี้ยงไว้สักที่หนึ่ง ท่านมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าว่าต้องหาคนที่เรียนจบอุดมศึกษามาเลี้ยงดูผม ท่านจึงทำทุกอย่างให้ผมได้อยู่กับทนายความท่านหนึ่งกับภรรยาของเขาตั้งแต่ผม เกิด แต่ปรากฏว่าท่านทั้งสองต้องการลูกสาวมากกว่า จึงต้องเปลี่ยนไปเลือกครอบครัวอื่นที่อยู่ในรายชื่อ กลางดึกคืนนั้นแม่ของผมโทรไปหาและถามว่า “เรามีเด็กชายแรกเกิด คุณต้องการเลี้ยงเขาไหม?” ปลายทางตอบตกลง แต่แม่บังเกิดเกล้ามาพบทีหลังว่าแม่ใหม่ของผมไม่ได้จบระดับอุดมศึกษา แถมพ่อใหม่ของผมก็ไม่ได้จบมัธยมด้วยซ้ำ ท่านจึงไม่ยอมลงนามในเอกสารส่งตัวผม จนหลายเดือนต่อมาท่านจึงยอมเมื่อพ่อและแม่ใหม่ของผมสัญญาว่าจะส่งเสียให้ผม ได้เรียนจนถึงระดับอุดมศึกษา
17 ปีผ่านไป ผมได้เข้าเรียนในสถาบันอุดมศึกษาจริงๆ แต่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผม ผมเลือกที่จะเรียนในที่ที่ค่าเล่าเรียนแพงพอๆ กับ Stanford เงินเก็บของผู้ปกครองของผมที่สะสมมาต้องนำมาจ่ายเป็นค่าเล่าเรียน เมื่อผ่านไป 6 เดือน ผมไม่เห็นว่ามันจะได้อะไร ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมต้องการอะไรในชีวิต ไม่รู้เลยว่าสถาบันอุดมศึกษาแห่งนี้จะช่วยให้ผมรู้อะไรมากขึ้น และผมก็กำลังใช้เงินที่ผู้ปกครองของผมเก็บสะสมมาตลอดทั้งชีวิตของท่าน ผมจึงตัดสินใจที่จะหยุดเรียนชั่วคราว และเชื่อมั่นว่านั่นเป็นการดี ผมรู้สึกกลัวเหมือนกันขณะนั้น แต่เมื่อมองถอยกลับไป นั่นเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของผม เมื่อผมเลือกที่จะหยุดเรียนจากหลักสูตรปกติ ผมสามารถเลือกที่จะไม่เรียนวิชาที่ผมไม่สนใจ แล้วเริ่มเสาะหาที่เรียนเฉพาะวิชาที่ผมสนใจเท่านั้นพอ
มันไม่ง่ายอย่างที่คิด ผมไม่มีแม้หอพัก ผมต้องนอนที่พื้นห้องของเพื่อน ผมต้องหาขวดน้ำอัดลมเปล่าไปแลกเงิน 5 เซนต์เพื่อซื้ออาหาร ทุกคืนวันอาทิตย์ผมต้องเดินข้ามเมืองเป็นระยะทางกว่า 7 ไมล์เพื่อไปรับประทานอาหารดีๆ ที่โบถส์ Hare Krishna ผมชอบมาก และเมื่อผมได้เดินตามความอยากรู้อยากเห็นและความคิดชอบแล้ว มันเป็นประสบการณ์ที่สูงค่ายิ่งนักในเวลาต่อมา ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังสักเรื่อง
ที่ Reed College ขณะนั้นมีหลักสูตรการออกแบบตัวอักษร (Calligraphy) ที่ดีที่สุดในประเทศ ตัวหนังสือที่พบเห็นได้อยู่ทั่วไปในที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นโปสเตอร์ หรือป้ายหน้าลิ้นชัก จะเป็นตัวหนังสือสวยๆ ที่ประดิบประดอยด้วมมือ และขณะนั้นผมยังพักการเรียนอยู่ ผมไม่ต้องเข้าเรียนตามปกติ ผมจึงเลือกที่จะไปเรียนเรื่องการออกแบบตัวอักษร ผมต้องเรียนตัวอักษรทั้งแบบเซอรี (serif) และ ซอง เซอรี (san serif) การเลื่อนไหลของแบบตัวหนังสือ และการทำให้ตัวอักษรนั้นดูดีที่สุด มันสวยงาม มันน่าประทับใจ มันเป็นศิลปะในแบบที่อธิบายไม่ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ และผมตกหลุมรักมันเข้าแล้ว
นี่ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผมไฝ่ฝันว่าจะนำมาใช้ในชีวิตผม แต่สิบปีให้หลัง เมื่อครั้งที่ผมและทีมงานกำลังออกแบบเครื่อง Macintosh เครื่องแรกอยู่นั้น มันก็ผุดขึ้นในหัวของผมอีกครั้ง ผมและทีมงานจึงบรรจุมันไว้ในเครื่อง Mac ด้วย มันเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ใช้ตัวหนังสือที่สวยงาม ถ้าผมไม่ได้เลือกเรียนวิชานั้น เครื่อง Mac ก็จะไม่มีตัวหนังสือหลายๆ รูปแบบ แถมยังมีช่องไฟที่เปลี่ยนไปตามแบบตัวอักษร (proportionally spaced fonts) ขณะที่ Windows เองก็ทำได้เพียงเลียนแบบ Mac ก็จะไม่มีคอมพิวเตอร์เครื่องไหนมีแบบนี้เลย และถ้าผมไม่ได้พักการเรียนชั่วคราว ผมก็คงจะไม่ได้เข้าเรียนวิชานั้น และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลบนโลกนี้ก็จะไม่มีตัวหนังสือสวยๆ ให้ใช้ แน่นอนว่ามันไม่อาจจะเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ ได้เลย ถ้าผมยังเรียนหนังสือแบบเดิม มันชัดเจนมากเมื่อมองย้อนกลับไปสัก 10 ปี
และเช่นกันคุณจะไม่สามารถเชื่อมโยงเรื่องราวไปในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้าได้เลย คุณทำได้แค่เพียงมองย้อยกลับไปในอดีต ดังนั้นคุณต้องเชื่อมั่นว่าเรื่องราวมันจะเชื่อมโยงไปถึงอนาคต คุณต้องเชื่อในบางสิ่งบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกึ๋นของคุณเอง พรหมลิขิต หรือแม้แต่กรรมของคุณ แนวคิดนี้ไม่เคยทำให้ผมท้อถอย มีแต่จะทำให้สิ่งต่างๆ มากมายเกิดขึ้นในชีวิตของผม


ที่มา : 

วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554

"เฟซบุ๊ค"ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว ครั้งใหม่ เปิดใช้พร้อมกันทั่วโลก 25 ส.ค.นี้














เฟซบุ๊ค ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมความเป็นส่วนตัวได้มากยิ่งขึ้น

โดยหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือ ทุกครั้งที่ผู้ใช้โพสต์สิ่งใดลงไป จะมีแถบตั้งค่าสำหรับการแบ่งปัน เพื่อให้ผู้ใช้ได้พิจารณาว่าควรแบ่งปันให้ใครทราบบ้าง


นี่ถือเป็นความพยายามล่าสุดของเฟซบุ๊คที่พยายามปรับปรุงให้ผู้ใช้สามารถจัดการข้อมูลส่วนบุคคลให้มีประสิทธิภาพขึ้น ในอดีต เฟซบุ๊คเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เปิดเผยเมนูการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้ทราบอย่างชัดเจน

ปัจจุบัน ผู้ใช้ซึ่งถูก"แท็ก"ในการโพสต์ต่างๆ อาทิ ภาพถ่ายหรือวิดีโอ  สามารถมีทางเลือกในการ"ยอมรับ"หรือ"ลบ" การถูกระบุตัวตนก่อนที่สิ่งดังกล่าวจะปรากฏบนหน้าโพรไฟล์ ซึ่งเฟซบุ๊คหวังว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยให้ปัญหาอันเกิดจากการถูกแท็กโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องการลดลง ซึ่งวิธีการดังกล่าวมักถูกใช้โดยกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีที่ต้องการใส่ชื่อของบุคคลอื่นลงไปพร้อมภาพที่ไม่มีความเหมาะสม


นอกจากนั้น ในหน้าวอลล์รวม ทุกๆโพสต์จะมีแถบตั้งค่าความเป็นส่วนตัว อาทิ สามารถเผยแพร่สู่สาธารณะได้ (public) เฉพาะเพื่อน (friends) และ custom อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถลบ"แท็ก"ที่คนอื่นส่งมาให้ หรือร้องขอให้คนที่แท็กลบออกได้ หรือบล็อกคนที่แท็กได้เช่นกัน


ผู้ใช้ยังสามารถแท็กใครก็ได้ ไม่เฉพาะเพื่อนในเฟซบุ๊คเท่านั้น โดยบุคคลอื่นๆสามารถเลือกที่จะไม่ยอมรับการถูกแท็กในโพรไฟล์ของตนได้ อีกทั้งยังสามารถระบุตำแหน่งที่ตั้งของผู้ใช้ได้ ไม่เฉพาะในแอพพลิเคชันทางโทรศัพท์มือถือเท่านั้น

นายคริส ค็อกซ์ รองประธานด้านผลิตภัณฑ์ของเฟซบุ๊คเปิดเผยว่า การเปิดตัวของการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวใหม่ครั้งนี้  ไม่ได้หมายความว่าจะมีการยกเลิกการใช้ระบบเก่า เขาไม่คิดว่าระบบเก่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพียงแต่เห็นว่าระบบใหม่น่าจะดีกับผู้ใช้มากกว่า และตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและทันสมัยมากขึ้น


เขาปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า การปรับปรุงระบบของเฟซบุ๊คครั้งนี้ เพื่อต้องการขยายให้เฟซบุ๊คสามารถเข้าถึงเด็กๆที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เคยกล่าวว่าเป็นสิ่งที่เขาต้องการเห็น และให้คำมั่นว่าจะไม่มีการรบกวนหรือการเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้นในระบบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ระหว่างที่กระบวนการปรับปรุงกำลังดำเนินการ

ทั้งนี้ ทางเลือกในการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวนี้จะเริ่มมีผลต่อผู้ใช้ทุกคนในวันพฤหัสบดี ที่ 25 นี้


วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ความแตกต่างระหว่าง Feature Phone และ Smart Phone

          ในปัจจุบันเทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือไปอย่างรวดเร็วมากจนเราอาจตามไม่ทัน ในขณะที่ค่ายมือถือแต่ละค่าย ต่างก็ออกโทรศัพท์รุ่นต่างๆออกมาอย่างมากมายให้วิ่งจับกันอย่างไม่หวดไม่ไหว เมื่อซื้อรุ่นใหม่มาเป็นเจ้าของ อีกไม่นานก็มีโทรศัพท์รุ่นใหม่ออกมาอีกไม่นาน
          แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ใช้โทรศัพท์มือถือธรรมดาที่เราเรียกกันว่า Feature Phone ก่อนที่จะเข้าเรื่องผมของนิยาม ของ โทรศัพท์สองชนิดก่อนแล้วกัน


Features Phone คือ โทรศัพท์ที่ใส่ลูกเล่นที่ ผู้ใช้ต้องการไว้อย่างครบครัน ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก และ ไม่ต้องเรียนรู้โดยการเปิดคู่มือ
Smart Phone คือโทรศัพท์ที่ใส่ สิ่งที่ผู้ใช้ต้องการไว้อย่างครบครัน แต่สามารถพัฒนา โดยการลง application หรือ ปรับแต่งค่าการใช้งานในเครื่อง เพื่อสามารถใช้งานให้ตรงใจ ได้มากขึ้น โดยต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจกับ os นั้น ๆ ก่อน

หรือจะสรุปสั้น ๆ ว่า smart phone นั้น ใช้ os แต่ features phone นั้น เป็นแค่ User interface platform ให้ผู้ใช้ ใช้ได้ง่ายขึ้น เท่านั้นก็ได้ครับ

          อนึ่งเราควรเข้าใจก่อนว่า การลง application ใน smart phone นั้น คือ เป็น app ที่ run ขึ้นมาในตัว OS ของ โทรศัพท์ นั้น ๆ เอง ส่วน features phone นั้น จะ run app ใด ๆ ผ่าน java ในเครื่อง ซึ่ง ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ อย่างที่เราเคยพบว่า เกมบางเกม ที่เป็น java นั้น เล่น บนโทรศัพท์ ที่มีปุ่มกดได้ดี แต่พอ ไปลงกับ touch phone บางตัวแล้วเล่นไม่ได้

Link

Thor: God of Thunder ธอร์เทพเจ้าสายฟ้า

Thor: God of Thunder [PS3, Xbox 360, Wii, N3DS]



          Thor: God of Thunder ธอร์เทพเจ้าสายฟ้า เกมส์ 3rd Person Action-adventure จากภาพยนต์ฟอร์มยักษ์ ที่ถูกพัฒนาโดยทีมงานจาก Liquid Entertainment, Red Fly Studios ในตำนานเทพนิยายเทพเจ้าสายฟ้าThor เป็นหนึ่งในเทพผู้มีบทบาทสำคัญในสงคราม 3 โลก Ragnarok ที่มีค้อนสายฟ้า Mjölnir อันทรงพลังเป็นอาวุธต่อสู้กับเหล่าสัตว์ประหลาดและปิศาจร้าย กราฟฟิกในเกมส์ทำออกมาได้ดีมาก ภาพและเสียงเรียกได้ว่าดีมากที่เดียวแต่ว่าเกมส์ที่มาจากหนังมักมีอาถรรพ์เสมอ ต้องดูกันว่าเกมส์ Thor: God of Thunder จะทลายกำแพงนี้ไปได้รึเปล่า





          ระบบการเล่นของ Thor: God of Thunder จะเป็นแบบ 3D Third Person Action ผู้เล่นจะได้ควบคุม Thorต่อสู้กับเหล่าสัตว์ประหลาดในตำนาน Norse mythology (ตำนานเกี่ยวกับเทพเจ้าในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย) แต่ผสมผสานเรื่องราวที่แต่งขึ้นเองเข้าไปด้วย ซึ่ง Thor มีเป้าหมายที่จะปกป้องโลกของ Asgard จากเหล่าปีศาจและเทพเจ้าตัวร้าย โดยใช้พลังของค้อน Mjölnir เข้าต่อสู้ โดยนอกจากจะต่อสู้ในระยะใกล้ด้วยค้อนแล้ว Thor ยังสามารถเรียกสายฟ้ามาโจมตีศัตรูได้อีก


ข้อมูลเกมส์
เกมส์: Thor: God of Thunder
พัฒนาโดย: Liquid Entertainment, Red Fly Studios
ประเภท: Action-adventure
เครื่อง: PlayStation 3 Xbox 360, Wii, Nintendo 3DS
วันจำหน่าย: 3 พฤษภาคม 2011



Link

Accelerated processing unit

          An Accelerated Processing Unit (APU) is a processing system that includes additional processing capability designed to accelerate one or more types of computations outside of a CPU. This may include a graphics processing unit (GPU), a field-programmable gate array (FPGA), or similar specialized processing system. Variations on the usage of this term include a marketing based variation in which APU describes a processing device which integrates a CPU and a GPU on the same die thus improving data transfer rates between these components while reducing power consumption. APUs can also include video processing and other application-specific accelerators. Examples: AMD Fusion, Intel HD Graphics and NVIDIA's Project Denver.
          The term Accelerated Processing Unit or APU was first used in a public context with respect to accelerated computing on theScalability.or  blog, and prior to that in various presentations and business plans written by Joe Landman of Scalable Informatics. Other uses include Xilinx using the term for an Auxiliary Processor Unit.

          Anandtech.com reports that in 2011, AMD will be coming out with an Accelerated Processing Unit (APU). What is an APU exactly? Try four CPU cores married to a single GPU. The four CPU cores will be based on the existing Phenom II microarchitecture. The one GPU will be a DirectX 11 class GPU. The APU will be manufactured on a 32nm process at GlobalFoundaries, and is scheduled to arrive in 2011. The code name for the APU is Llano.

           Intel is also coming our with their own version of the APU, with the code name Sandy Bridge. Sandy Bridge will use a new microarchitecture for the CPU, and an updated integrated graphics core. Sandy Bridge will be manufactured on a 32nm process, and is due in early 2011.
           If one was to handicap this race, then it would be expected that Intel will have a faster CPU with Sandy Bridge. Historically, Intel’s graphics have not always been the best. Thus one could expect that AMD will have a better integrated GPU than Intel
Link

วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2554

Chrome OS คืออะไร

ผู้อ่านหลายท่านอาจจะร้อง อ๋อ เมื่อได้ยินชื่อ ระบบปฏิบัติการ ที่ผมกำลังจะเอ่ยถึงต่อไปนี้ แน่นอนครับว่ามันเป็นชื่อเดียวกับเว็บเบราเซอร์ของ Google ซึ่งเจ้า Chrome OS ก็คือระบบปฏิบัติการที่ทาง Google ได้ซุ่มทำอยู่นั่นเองซึ่งตอนนี้ทาง เจ้าของ Google เองได้เปิดตัวไป ซึ่งก็มีผู้ทดลองใช้หลายท่านได้เปิดเผยออกมาว่า เป็น OS ที่บู๊ตตัวไวมากนั่นเองครับ 

Concept ของ Google Chrome OS ที่ กูเกิลได้วางไว้คือจะต้องมีความเรียบง่าย ทำงานได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ปราศจาก Virus Computer และ Mulware ต่างๆ และที่สำคัญด้าน User Interface ของ OS ต้องคงความเป็น Google เอาไว้คือ เรียบสุดๆ ไม่มีอะไรมารกหน้าจอ

Google ตั้งเป้าเอาไว้ว่า ความสามารถของ Google Chrome OS จะทำให้ผู้ใช้งานเปิด Web ปุ๊บ ติดปั๊บ อยาก Check Mail เหรอ ง่ายมาก Click ปุ๊บ Mail มาปั๊บ หรือเวลาจะต่ออุปกรณ์อื่นๆเข้ากับ Computer ก็ไม่ต้องเสียเวลาติดตั้งหลายนาที ประเภทเสียบปุ๊บ ติดปั๊บเลย พูดง่ายๆ คือ Concept คือ อยากให้ทุกคนรู้สึกเหมือน Computer ของตัวเองทำงานได้เร็วอยู่ตลอดเวลา เร็วเหมือนตอนซื้อเครื่องไหม่ๆ ไม่ใช่แบบที่พอเราติดตั้ง Program อะไรลงไปมากเข้าๆ ก็พาลจะทำงานช้าลงๆ
Google Chrome OS ทำงานบน X36 และ ARM Chips และขณะนี้ทีมพัฒนาได้ทำการทดสอบกับ OEMS ต่างๆเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพกัย Netbook ที่จะออกมาในช่วงปี 2010 นี้ โดยใช้ระบบปฏิบัติการที่มีรากฐานจาก Linux Kernal และสามารถรองรับพวก Web-Base Application ต่างๆ


คำแถลงจากทีมงานพัฒนาโปรเจค 
ผมได้นำมาจาก www.ohodownloads.com

SP (Sundar Pichai) : สวัสดีครับทุกๆ ท่านยินดีต้อนรับเข้าสู่แถลงการเปิดตัวของ Chrome OS และผมหวังว่าคงไม่มีใครที่มาผิดงาน, งานเปิดตัวในวันนี้ไม่ใช่การพูดถึงเวอร์ชั่นเบต้าทดลองใช้แต่อย่างใด้ มันเป็นการเปิดตัวที่บ่งบอกว่า Chrome OS ใกล้ที่จะเสร็จสมบูรณ์แล้วและพวกเรื่อตื่นเต้นกับมันมากและมากพอที่จะจัดการ แถลงข่าวให้กับมัน
Chrome-OS-11
Google Chrome คือพื้นฐานของทุกสิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงกันในวันนี้ และผมมีความยินดีที่จะประกาศว่าแม้ว่าเราจะเพิ่งประกาศยอดผู้ใช้ของ Google Chrome ว่ามีจำนวนมากกว่า 30 ล้านรายไปหยกๆ แต่ทว่าเมื่อมาถึงวินาทีที่ผ่านมานี้ยอดผู้ใช้ Google Chrome นั้นทะลุเป้าไปกว่า 40 ล้านรายแล้ว สิ่งที่พวกเราเน้นในการพัฒนา Google Chrome ก็คือความเร็ว ความเรียบง่ายและความปลอดภัย, Google Chrome มีประสิทธิภาพความเร็วสูงกว่า IE8 ถึงกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ “อันหนึ่งช้า อันหนึ่งเร็ว” ทำให้ตัวเลือกของผู้ใช้นั้นไม่ต้องการการตัดสินใจที่ยากลำบากมากนัก (โคตรโม้เลย ( – -” ) – ผู้แปล) และเมื่อปีที่ผ่านมาพวกเราได้อัพเกรด Google Chrome ไปว่า 40 ครั้งซึ่งผู้ใช้มักจะไม่รู้ตัว โดยการอัพเกรดทั้งหมดนั้นจะเน้นไปที่เทคโนโลยี HTML 5 เกือบทั้งหมดเนื่องจากเราอยากเห็นการพัฒนาที่เป็นรูปธรรมของเทคโนโลยีเว็บไซ ต์
และภายในปีหน้า Google Chrome จะมีสิ่งใหม่ๆ ที่สำคัญได้แก่
1. Google Chrome สำหรับเครื่อง Mac ที่จะเปิดตัวก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งก็ใกล้มากแล้ว
2. Google Chrome สำหรับ Linux ที่กลำงอยู่ในช่วงโค้งสุดท้าย และเป็นที่มาของ Chrome OS ที่เรากำลังจะพูดถึงกันอยู่นี้
3. Chrome Extension ที่กำลังจะเริ่มเปิดให้ใช้งาน และมีระบบอัพเดตอัตโนมัติ ซึ่งรายละเอียดจะติดตามมาในเร็วๆ นี้
Chrome-OS-02
และสิ่งที่พวกเราในกูเกิ้ลกำลังพยายามผลักดันอยู่นั้นคือเทคโนโลยี HTML5 พวกเราต้องการที่จะให้เทคโนโลยี Web Apps (โปรแกรมการทำงานที่อ้างอิงกับข้อมูลและการประมวลผลด้วยการเชื่อมต่อ อินเตอร์เน็ต เช่นโปรแกรมต่างๆ บนสมาร์ทโฟนอย่าง iPhone – ผู้แปล) มีการก้าวกระโดดและใช้งานได้จริงในการเข้าถึงทรัพยากรของระบบ ยกตัวอย่างเช่นกราฟฟิก เราต้องการที่จะให้ Web Apps นั้นสามารถเข้าถึงการทำงานของ GPU ได้โดยตรงหรือสามารถเข้าถึงไฟล์มัลติมีเดียอื่นๆ ได้อย่างเต็มรูปแบบและสามารถทำงานแบบ Off line ได้ แน่นอนเรากำลังเก็บเกี่ยวพันธมิตรในการก้าวกระโดดของโทคโนโลยีในครั้งนี้

มีผู้ทดลองใช้งาน  Chrome OS  และผลทดสอบก็ออกมาดังนี้ครับ

ขั้นตอนไม่ยากอะไรครับ หลังจากซอร์สโค้ดของ Chrome OS ถูกนำขึ้นบน chromium.org ก็มีคนนำมาคอมไพล์แจกกันทั่วไปหลายเวอร์ชัน รายละเอียดแบบละเอียดสุดๆ อ่านได้จาก TechCrunch: Want To Try Out Google Chrome OS For Yourself? Here’s How สรุปคร่าวๆ คือมีไฟล์ .vmdk ให้โหลดหลายทาง (ผมใช้เวอร์ชันที่เป็น torrent ใน The Pirate Bay) นำมารันบน VMware Player หรือ VirtualBox ก็ได้แล้ว (กรณีนี้ผมใช้ VirtualBox)
chrome-os-boot
ขั้นตอนการติดตั้งคงไม่ต้องมาเล่าซ้ำ เมื่อโหลด virtual machine ขึ้นมาจะพบหน้าจอล็อกอินเป็นอันดับแรก ผมลองจับเวลาแล้วได้ประมาณ 12 วินาทีนับจากเริ่มบูต virtual machine ยังไม่ได้ 4 วินาทีตามโฆษณา แต่อย่าลืมว่านี่เป็น VirtualBox แถมเป็น Chrome OS รุ่นทดสอบของทดสอบ
ให้ใส่รหัสผ่านของ Gmail เพื่อความปลอดภัยผมจะใช้บัญชี blognonebook ที่สร้างไว้เพื่อสั่งหนังสือ Blognone Year Book 2008 คราวนู้น
default-screen
หน้าจอแรกสุดของ Chrome OS จะเป็นไปดังภาพ ไม่มีเดสก์ท็อป มีแต่ Chrome (หรือพูดให้ถูกคือ Chromium) เปิดแบบเต็มหน้าจอพร้อมกับแท็บอีก 4 แท็บ แท็บแรกสุดคือหน้าจอ Welcome ซึ่งมันก็อยู่บนเว็บ!!! ต้องล็อกอินด้วย Google Account ก่อนถึงเข้าได้
default-screen-calendar
แท็บถัดมาคือ Gmail กับ Google Calendar ถูกแสดงเป็นแท็บเล็กๆ คือเป็นแท็บที่ถูกปักหมุดค้างไว้
default-screen-newtab
แท็บสุดท้ายคือหน้า New Tab ของ Chrome ซึ่งก็เหมือน Chrome รุ่นปกติทุกประการ
chrome-os-homescreen
กลับมาที่แท็บแรก เมื่อล็อกอินแล้วจะพบกับหน้าจอเรียกโปรแกรมของ Chrome OS (ซึ่งมันก็คือเว็บแอพพลิเคชันนั่นเอง) แบ่งเป็น 4 แถว
  • แถวแรกคือ อีเมลและบริการเด่นของกูเกิล เช่น Gdocs ที่น่าสนใจคือมีไอคอนของ Hotmail/Yahoo! Mail ด้วย แต่เมื่อกดที่ Hotmail กลับพาเราไปยังหน้าของ Gmail แทน (เข้าใจว่าเป็นบั๊ก กูเกิลคงไม่จงใจขนาดนั้น)
  • แถวที่สอง เว็บบันเทิงทั้งหลาย ทั้งของกูเกิลเองคือ YouTube/Picasa และบริการของคนอื่นๆ เช่น Hulu/Pandora
  • แถวที่สาม อันนี้น่าสนใจที่สุด มันคือโปรแกรมพิเศษที่มีเฉพาะ Chrome OS ได้แก่พวก utility ต่างๆ เดี๋ยวจะกล่าวต่อไป
  • แถวสุดท้ายยังจัดหมวดแปลกๆ มีทั้ง Google Books, social network และเกมหมากรุก มีลิงก์ Get more ด้วยแต่ยังใช้งานไม่ได้
chrome-os-panel
มาดูที่แถวที่สามกันครับ สิ่งที่มีให้ลองคือ Contacts, Calculator, To-do list และ Notepad ผมลองกดที่ To-do list จะเห็น panel โผล่ขึ้นมาที่มุมขวาล่างของหน้าต่างๆ คล้ายกับหน้าจอสนทนาของ Gmail
ปรากฎว่ามันยังใช้งานไม่ได้ ต้องมีอีเมลที่เป็น @google.com เท่านั้น สังเกตที่ URL ตรงมุมขวาล่างสุด มันทำงานอยู่บน appspot.com
chrome-os-gtalk-panel
โปรแกรม Calculator และ Notepad เปิดแล้วเป็น panel ขาวไม่โหลดอะไร โปรแกรมเดียวที่ใช้งานได้คือ Contacts ซึ่งมันก็คือ Google Talk นั่นเอง (คงยกโค้ดมาเลยดื้อๆ) ทดลองแล้วคุยได้
chrome-os-flash-chess
ข้ามไปแถวสี่ครับ ความน่าสนใจคือเกมหมากรุก Chess พอคลิกลิงก์แล้วจะเข้าไปที่ flashchess3.com ถ้าดูจากภาพหรือ URL น่าจะเดาได้ว่า มันมี Flash Player มาให้ในตัว!!!
chrome-os-flash-version
เลขเวอร์ชันเป็น 10.0.32.18
chromium-about
ส่วนเลขเวอร์ชันของ Chromium เป็น 4.0.253.0
chrome-os-pin-tab
มาดูที่ส่วนอื่นๆ กันบ้าง ลองคลิกขวาที่แท็บ จะเห็นตัวเลือก Pin Tab มาให้
chrome-os-battery-icon
ที่มุมขวาบนมีนาฬิกาและไอคอนเล็กๆ อีก 3 อัน เริ่มจากซ้ายคือแสดงสถานะแบตเตอรี่
chrome-os-network-icon
ถัดมาอันกลาง สถานะของเครือข่าย ทั้ง Wi-Fi และ Ethernet
chrome-os-system-menu
สุดท้ายเป็น Options ซึ่งเป็นอันเดียวกับ Options ของ Chrome กดปุ่มรูปประแจของ Chrome ก็ได้ผลแบบเดียวกัน
chrome-os-option
เข้ามาที่ Options จะมีแท็บพิเศษของ Chrome OS เพิ่มเข้ามา ซึ่งมีแค่ตั้งเขตเวลา และตั้งค่าทัชแพด
chrome-os-option-search
อันอื่นยังอยู่ครบ สามารถเปลี่ยน search engine เป็น Yahoo!/Bing ได้ด้วย
chrome-os-bing
ทดลองเปลี่ยนเป็น Bing ก็ได้ผลครับ Chrome OS ที่ใช้ Bing เป็น default มีจริง!
chrome-os-gtk-theme
ลองเปลี่ยนธีมมาตรฐานของ Chrome เป็นธีมของ GTK+ ได้ (สังเกตตรงไอคอนที่ปุ่ม Back/Forward)
chrome-blognone
และแน่นอนแบบที่หลายคนน่าจะเดาได้ว่า มันอ่านภาษาไทยไม่ได้ ปัญหานี้จะยิ่งรุนแรงเพราะ Chrome OS ตัวจริงนั้น encrypt ส่วนของระบบปฏิบัติการเอาไว้ ไปแก้มั่วๆ เอาฟอนต์ใส่เองไม่ได้ นักพัฒนาชาวไทยมีทางเลือกเดียวคือต้องเข้าไปพัฒนาภาษาไทยร่วมกับกูเกิล

ที่มา
  • http://www.blognone.com/node/14014
  • http://www.ohodownloads.com/software-review/google-chrome-os-2/
  • http://www.wannapong.com/google-chrome-os-what-is-operating-system/

ไอซีที เปิดตัวร่างพ.ร.บ.คอมฯ เพิ่มโทษผู้ดูแลระบบ ก๊อปไฟล์โหลดบิทเสี่ยงคุก (ไอซีที)

เปิดตัวร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เวอร์ชั่นใหม่จากกระทรวงไอซีที เพิ่มฟังก์ชั่น "ผู้ดูแลระบบ" โทษมากกว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วไป ส่วน ก๊อปปี้ไฟล์ โหลดบิท คุก 3 ปี
 
เมื่อวันจันทร์ ที่ 28 มีนาคม 54 กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จัดประชุมรับฟังและให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติ ว่า ด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โดยเชิญตัวแทนผู้ประกอบการด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยในการประชุมดังกล่าว มีการแจกเอกสารร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ที่กระทรวงไอซีทีจัดทำขึ้นด้วย

ร่างกฎหมาย นี้ เขียนขึ้นเพื่อให้ยกเลิก พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ทั้งฉบับ และให้ใช้ร่างฉบับใหม่นี้แทน อย่างไรก็ดี โครงสร้างของเนื้อหากฎหมายมีลักษณะคล้ายคลึงฉบับเดิม โดยมีสาระสำคัญที่ต่างไป ดังนี้


ประเด็นที่ 1 เพิ่มนิยาม "ผู้ดูแลระบบ"

มาตรา 4 เพิ่มนิยามคำว่า "ผู้ดูแลระบบ" หมายความว่า "ผู้มีสิทธิเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการแก่ผู้อื่นในการเข้าสู่อิน เทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น"
ใน กฎหมายเดิมมีการกำหนดโทษของ "ผู้ให้บริการ" ซึ่งหมายถึงผู้ที่ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า การพยายามเอาผิดผู้ให้บริการซึ่งถือเป็น "ตัวกลาง" ในการสื่อสาร จะส่งผลต่อความหวาดกลัวและทำให้เกิดการเซ็นเซอร์ตัวเอง อีกทั้งในแง่ของกฎหมายคำว่าผู้ให้บริการก็ตีความได้อย่างกว้างขวาง คือแทบจะทุกขั้นตอนที่มีความเกี่ยวข้องในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารก็ล้วนเป็น ผู้ให้บริการทั้งสิ้น

สำหรับร่างฉบับใหม่ที่เพิ่มนิยามคำว่า "ผู้ดูแลระบบ" ขึ้นมานี้ อาจหมายความถึงเจ้าของเว็บไซต์ เว็บมาสเตอร์ แอดมินระบบเครือข่าย แอดมินฐานข้อมูล ผู้ดูแลเว็บบอร์ด บรรณาธิการเนื้อหาเว็บ เจ้าของบล็อก ขณะที่ "ผู้ให้บริการ" อาจหมายความถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

ตามร่างกฎหมายนี้ ตัวกลางต้องรับโทษเท่ากับผู้ที่กระทำความผิด เช่น หากมีการเขียนข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง กระทบกระเทือนต่อความมั่นคง ผู้ดูแลระบบและผู้ให้บริการที่จงใจหรือยินยอมมีความผิดทางอาญาเท่ากับผู้ที่ กระทำความผิด และสำหรับความผิดต่อระบบคอมพิวเตอร์ เช่น การเจาะระบบ การดักข้อมูล หากผู้กระทำนั้นเป็นผู้ดูแลระบบเสียเอง จะมีโทษ 1.5 เท่า ของอัตราโทษที่กำหนดกับคนทั่วไป


ประเด็นที่ 2 คัดลอกไฟล์ จำคุกสูงสุด 3 ปี

สิ่ง ใหม่ในกฎหมายนี้ คือมีมาตรา 16 ที่ เพิ่มมาว่า "ผู้ใดสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

ทั้งนี้ การทำสำเนาคอมพิวเตอร์ อาจหมายถึงการคัดลอกไฟล์ การดาว์นโหลดไฟล์จากเว็บไซต์ต่าง ๆ มาตรานี้อาจมีไว้ใช้เอาผิดกรณีการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์หรือเพลง แต่แนวทางการเขียนเช่นนี้อาจกระทบไปถึงการแบ็กอัปข้อมูล การเข้าเว็บแล้วเบราว์เซอร์ดาว์นโหลดมาพักไว้ในเครื่องโดยอัตโนมัติหรือที่ เรียกว่า "แคช" (cache เป็น เทคนิคที่ช่วยให้เรียกดูข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น โดยเก็บข้อมูลที่เคยเรียกดูแล้วไว้ในเครื่อง เพื่อให้การดูครั้งต่อไป ไม่ต้องโหลดซ้ำ) ซึ่งผู้ใช้อาจมิได้มีเจตนาหรือกระทั่งรับรู้ว่ามีกระทำการดังกล่าว 
  
 ประเด็นที่ 3 เก็บไฟล์ลามกเกี่ยวกับเด็ก มีความผิด

ในมาตรา 25 "ผู้ใดครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีลักษณะอันลามกที่เกี่ยวข้องกับเด็กหรือเยาวชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

เป็นครั้งแรกที่มีการระบุขอบเขตเรื่องลามกเด็ก หรือเยาวชนโดยเฉพาะขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ยังมีความคลุมเครือว่า ลักษณะอันลามกที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนนั้นหมายความอย่างไร นอกจากนี้ มาตราดังกล่าวยังเป็นการเอาผิดที่ผู้บริโภค ซึ่งมีความน่ากังวลว่า การชี้วัดที่ "การครอบครอง" อาจทำให้เกิดการเอาผิดที่ไม่เป็นธรรม เพราะธรรมชาติการเข้าเว็บทั่วไป ผู้ใช้ย่อมไม่อาจรู้ได้ว่าการเข้าชมแต่ละครั้งดาว์นโหลดไฟล์ใดมาโดย อัตโนมัติบ้าง และหากแม้คอมพิวเตอร์ถูกตรวจแล้วพบว่ามีไฟล์โป๊เด็ก ก็ไม่อาจหมายความได้ว่าผู้นั้นเป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้ดูผู้ชม


ประเด็นที่ 4 ยังเอาผิดกับเนื้อหา
มาตรา 24 (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่ไม่ตรงต่อความเป็นจริง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความ ตื่นตระหนกแก่ประชาชน

เนื้อความข้างต้น เป็นการรวมเอาข้อความในมาตรา14 (1) และ (2) ของ กฎหมายปัจจุบันมารวมกัน ทั้งนี้ หากย้อนไปถึงเจตนารมณ์ดั้งเดิมก่อนจะเป็นข้อความดังที่เห็น มาจากความพยายามเอาผิดกรณีการทำหน้าเว็บเลียนแบบให้เข้าใจว่าเป็นหน้าเว็บ จริงเพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนบุคคล (phishing) จึง เขียนกฎหมายออกมาว่า การทำข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมถือเป็นความผิด แต่เมื่อแนวคิดนี้มาอยู่ในมือนักกฎหมายและเจ้าหน้าที่ ได้ตีความคำว่า "ข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม" เสียใหม่ กลายเป็นเรื่องการเขียนเนื้อหาอันเป็นเท็จ และนำไปใช้เอาผิดฟ้องร้องกันในเรื่องการหมิ่นประมาท ความเข้าใจผิดนี้ยังดำรงอยู่และต่อเนื่องมาถึงร่างนี้ซึ่งได้ปรับถ้อยคำใหม่ และกำกับด้วยความน่าจะเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่น ตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หากพิจารณาจากประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐในการ ดำเนินคดีคอมพิวเตอร์ที่ผ่านมา ปัญหานี้ก่อให้เกิดการเอาผิดประชาชนอย่างกว้างขวาง เพราะหลายกรณี รัฐไทยเป็นฝ่ายครอบครองการนิยามความจริง ปกปิดความจริง ซึ่งย่อมส่งผลให้คนหันไปแสดงความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตแทน อันอาจถูกตีความได้ว่ากระทบต่อความไม่มั่นคงของ "รัฐบาล" ข้อความกฎหมายลักษณะนี้ ยังขัดต่อสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงความคิดเห็นโดยไม่จำเป็น

ประเด็นที่ 5 ดูหมิ่น ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

มาตรา 26 ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น หรือข้อมูลอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้บุคคลอื่นเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย หรือเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นข้อมูลที่แท้จริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ที่ผ่านมามีความพยายามฟ้องคดีหมิ่นประมาทซึ่งกัน และกันโดยใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จำนวนมาก แต่การกำหนดข้อหายังไม่มีมาตราใดใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ที่จะใช้ได้อย่างตรงประเด็น มีเพียงมาตรา 14 (1) ที่ระบุเรื่องข้อมูลอันเป็นเท็จดังที่กล่าวมาแล้ว และมาตรา 16 ว่าด้วยภาพตัดต่อในร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ได้สร้างความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ใช้ตั้งข้อหาการ ดูหมิ่นต่อกันได้ง่ายขึ้น

ข้อสังเกตคือ ความผิดตามร่างฉบับใหม่นี้กำหนดให้การดูหมิ่น หรือหมิ่นประมาทมีโทษจำคุก 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท ทั้งที่การหมิ่นประมาทในกรณีปกติ ตามประมวลกฎหมายอาญามีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
ประเด็นที่ 6 ส่งสแปม ต้องเปิดช่องให้เลิกรับบริการ

มาตรา 21 ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เป็นจำนวนตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด เพื่อประโยชน์ทางการค้าจนเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเดือดร้อนรำคาญ และโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ สามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการตอบรับได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

จากที่กฎหมายเดิมกำหนดเพียงว่าการส่งจดหมายรบกวน หากเป็นการส่งโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มา ถือว่าผิดกฎหมาย ในร่างฉบับใหม่แก้ไขว่า หากการส่งข้อมูลเพื่อประโยชน์ทางการค้า โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับสามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการ บอกรับได้ ทั้งนี้อัตราโทษลดลงจากเดิมที่กำหนดโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท มาเป็นจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้ง นี้ ยังต้องตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากการส่งข้อมูลดังกล่าว แม้จะเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเดือดร้อนรำคาญ แต่ไม่ได้ทำไปเพื่อประโยชน์ทางการค้า ก็จะไม่ผิดตามร่างฉบับใหม่นี้


ประเด็นที่ 7 เก็บโปรแกรมทะลุทะลวงไว้ คุกหนึ่งปี

มาตรา 23 ผู้ใดผลิต จำหน่าย จ่ายแจก ทำซ้ำ มีไว้ หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ชุดคำสั่ง หรืออุปกรณ์ที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา 15 มาตรา 16 มาตรา 17 มาตรา 18 มาตรา 19 และมาตรา 20 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

น่าสังเกตว่า เพียงแค่ทำซ้ำหรือมีไว้ซึ่งโปรแกรมที่ใช้เจาะระบบ การก๊อปปี้ดาวน์โหลดไฟล์อย่างทอร์เรนท์ การดักข้อมูล การก่อกวนระบบ ก็มีความผิดจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท เรื่องนี้น่าจะกระทบต่อการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์โดยตรง
ประเด็นที่ 8 เพิ่มโทษผู้เจาะระบบ

สำหรับ กรณีการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ เดิมกำหนดโทษจำคุกไว้ไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท ร่างกฎหมายใหม่เพิ่มเพดานโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท (เพิ่มขึ้น 4 เท่า)

ประเด็นที่ 9 ให้หน้าที่หน่วยใหม่ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)

ร่าง กฎหมายนี้กำหนดหน้าที่ให้หน่วยงานซึ่งมีชื่อว่า "สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)" เรียกโดยย่อว่า "สพธอ." และให้ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า "Electronic Transactions Development Agency (Public Organization)" เรียกโดยย่อว่า "ETDA" เป็นองค์การมหาชนภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงไอซีที

หน่วยงานนี้ เพิ่งตั้งขึ้นเป็นทางการประกาศผ่าน "พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิสก์ พ.ศ. 2554" เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554 โดยเริ่มมีการโอนอำนาจหน้าที่และจัดทำระเบียบ สรรหาประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554

ในร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่นี้ กำหนดให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) มีบทบาทเป็นฝ่ายเลขานุการของ "คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์" ภายใต้ร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับที่กำลังร่างนี้

นอกจากนี้ หากคดีใดที่ต้องการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดซึ่งอยู่ในต่างประเทศ จะเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด ในร่างกฎหมายนี้กำหนดว่า พนักงานสอบสวนอาจร้องขอให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์(องค์การ มหาชน) เป็นผู้ประสานงานกลางให้ได้ข้อมูลมา

ประเด็นที่ 10 ตั้งคณะกรรมการ สัดส่วน 8 ? 3 ? 0 : รัฐตำรวจ-ผู้ทรงคุณวุฒิ-ประชาชน

ร่างกฎหมายนี้เพิ่มกลไก "คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์" ประกอบด้วย

- นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ

- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นรองประธานกรรมการ

- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยระบุตัวบุคคลจากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ในด้านกฎหมาย วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ การเงินการธนาคาร หรือสังคมศาสตร์จำนวนสามคน โดยให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี

คณะกรรมการชุด นี้ ให้ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์(องค์กรมหาชน), สำนักงานกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (สังกัดกระทรวงไอซีที), สำนักคดีเทคโนโลยี (สังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม), และ กลุ่มงานตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำความผิดทางเทคโนโลยี กองบังคับการสนับสนุนทางเทคโนโลยี (บก.สสท.) (สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) เป็นเลขานุการร่วมกัน

คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจหน้าที่แต่งตั้ง พนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ออกระเบียบ ประกาศ ตามที่กำหนดใน พ.ร.บ.นี้ และมีอำนาจเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารหลักฐาน รวมถึง "ปฏิบัติการอื่นใด" เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ โดยให้ถือว่าคณะกรรมการและอนุกรรมการเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
ที่มา 
  • www.prachatai.com
  • ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

กระทรวงไอซีที รับมติ ครม.รักษาตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมทั้ง 2 ตำแหน่ง

นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า จากการศึกษาความเป็นไปได้ในการยิงดาวเทียมตำแหน่ง 120 องศานั้น ได้ให้สิทธิ์แก่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เนื่องจากเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมจากคณะกรรมการกิจการโทร คมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ตั้งแต่ก่อนแปรสภาพจากการสื่อสารแห่งประเทศไทย ถือว่ามีความรู้เกี่ยวกับเรื่องดาวเทียม ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไป คงต้องหารือกับคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต่อไป
กระทรวงไอซีทีต้องทำ หนังสือแจ้ง เพื่อยืนยันไปยังสหภาพโทรคมนาคมยุโรป (ไอทียู) ว่าไทยยืนยันที่จะใช้ตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมดังกล่าวต่อไป ขณะเดียวกันจะหารือ กสทช. เพื่อไปเจรจาไอทียูร่วมกันด้วย เพราะถือว่ากสทช. เป็นผู้กำกับกิจการดาวเทียมตามกฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์กรจัดสรร คลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 (พ.ร.บ.กสทช.)

นางจีราวรรณ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการเสนอ ครม.เพื่อรักษาตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมล่าช้านั้น จะดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งยอมรับว่าเสนอให้ ครม.ล่าช้าจริง เพราะตำแหน่งวงโคจร 120 องศา เหลืออายุ 9 เดือน ส่วน 50.0 องศา เหลืออายุ 1ปี 6 เดือน ซึ่งตามหลักต้องเสนอให้ ครม.เห็นชอบก่อนหน้านี้ เพราะการก่อสร้างดาวเทียมต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี เพราะธุรกิจดาวเทียมต้องใช้เงินลงทุนสูง และใช้เวลาในการก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม กระทรวงไอซีที จะพยายามชี้แจงและยืนยันกับไอทียู ถึงความจำเป็นในการใช้ตำแหน่งวงโคจรดังกล่าว.

วันนี้ (22 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางเพื่อรักษาตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมสองตำแหน่ง  คือวงโคจรดาวเทียม 120 องศาตะวันออก และ วงโคจรดาวเทียม 50.5 องศาตะวันออก ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสานเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เสนอ และมอบให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เร่งศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน การจัดทำคำของบประมาณเพื่อการลงทุนดาวเทียมดวงใหม่ที่จะนำมาใช้ในวงโคจร 120 องศาตะวันออก ด้วย

นอกจากนี้ยังมอบหมายให้กระทรวงไอซีที ศึกษาแนวทางการจัดหาดาวเทียมดวงใหม่อีกดวงที่จะนำมาใช้ในวงโคจร 50.5 องศาตะวันออก ด้วยการให้สัมปทานภายใต้พระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือ ดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 โดย ครม.กำหนดให้ กสท. และไอซีที เสนอรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครม.พิจารณาอีกครั้งภายใน 30 วัน

รายงาน ข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เสนอความเห็นว่า ผู้ที่ต้องการให้บริการดาวเทียมสื่อสารต้องได้รับอนุญาตจากกสทช.ก่อน ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เห็นว่า ไอซีทีต้องศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโดยละเอียดและชัดเจน ครอบคลุมทั้งด้านความต้องการของตลาด ความเหมาะสมด้านเทคนิค ความคุ้มค่าในการลงทุน รูปแบบและทางเลือกในการลงทุน ความพร้อมของบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ และการวิเคราะห์ความเสี่ยง ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในกรณีที่ไม่สามารถส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรในระยะ เวลาที่กำหนด

นอกจากนี้ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.กสทช. และพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 หรือพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่มีความเห็นว่าการ ดำเนินการดังกล่าวเป็นการดำเนินการที่เข่าข่าย พ.ร.บ.กสทช.และพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ.

 เครดิต http://www.dailynews.co.th
          http://www.thairath.co.th/

วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2554

iPad 2 มาแล้ววววว...

          iPad 2 สุดยอดแท็บเล็ตตระกูล iPad จาก Apple ได้เริ่มเปิดตัวชิงพื้นที่ข่าวแล้วด้วย ราคา ของ iPad 2 ที่ต้องเรียกได้ว่ายั่วยวนมากๆ หลังจากที่ลือกันมาตลอดว่า iPad 2 นี้จะเปิดตัวในช่วงเษายนปีหน้า สาวก iPad อย่าลืมเก็บตังรอซื้อกันได้เลย บอกก่อนว่า version นี้มีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก และมีการคาดการณ์ไว้ว่าอย่างน้อยใน iPad 2 นี้จะมีการเพิ่มการทำงานในส่วนของ facetime เข้ามาและหน้าจอ ขนาด และ Specification อื่นๆ ที่ปรับปรุงมากขึ้น

 
การคาดการณ์นี้เป็นของไบรอัน มาร์แชล (Brian Marshall) นักวิเคราะห์ของบริษัท Gleacher & Company ซึ่งให้สัมภาษณ์ต่อนิยสาร Computerworld จนกลายเป็นข่าวทั่วอินเตอร์เน็ต เพราะความเห็นครั้งนี้สวนทางกับรายงานข่าวในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสื่อออนไลน์ในช่วงเวลานั้นเชื่อว่า แอปเปิลจะแจ้งเกิด iPad 2 เพื่อจำหน่ายในช่วงเทศกาลจับจ่ายปลายปีนี้

iPad 2 มาแล้ว สำหรับสาวกไอแพดที่รอการเปลี่ยนแปลงในเวอร์ชั่น iPad 2 นี้
iPad 2 all new design
iPad 2 with Smart Cover
iPad 2 with higher performance vdo graphic chip
          อย่างไรก็ตาม ความเห็นของมาร์แชลกลับไปสอดคล้องกับรายงานล่าสุดจากสำนัก Digitimes ที่เชื่อว่า iPad 2 จะยังไม่ถึงกำหนดคลอดในปีนี้ โดยระบุว่าบริษัทซัปพลายเออร์ 3 รายใหญ่ Ibiden, Tripod และ TTM นั้นเพิ่งได้รับใบรับรองจากแอปเปิลในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนเพื่อให้เริ่มเปิด สายพานการผลิตแผงวงจร HDI สำหรับจัดส่งภายในเดือนธันวาคมนี้ แต่จะเป็นการผลิตชิ้นส่วนแผงวงจรที่ยังมีจำนวนไม่มาก ทำให้เชื่อว่า iPad2 จะผลิตไม่ทันปลายปีแน่นอน
Digitimes ยังอ้างแหล่งข่าววงในอีกว่า แอปเปิลมีแผนเพิ่มสายการผลิตในโรงงานเพิ่มอีก 4 แห่งช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า นี่คือสัญญาณที่ชี้ว่าแอปเปิลกำลังเตรียมพร้อมเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์เต็มรูปแบบ ในไตรมาสแรกปีหน้า ซึ่งเมื่อคำนวณร่วมกับข่าวลือเรื่องการผลิตหน้าจอที่เชื่อกันว่าเป็นส่วน ประกอบของ iPad รุ่นใหม่ ก็จะเป็นไปในกรอบเวลาที่สอดคล้องกัน
ราคา iPad เมืองไทย ล่าสุด และ verion ก่อนหน้า
          สำหรับคุณสมบัติใหม่ใน iPad2 เชื่อกันว่าจะเป็นการใส่กล้องดิจิตอลด้านหน้าและหลังสไตล์เดียวกับ iPhone 4 เพื่อให้ผู้ใช้ iPad 2 สามารถสื่อสารผ่านวิดีโอได้บนโปรแกรม Facetime ขณะเดียวกัน หลายเสียงเชื่อว่าแอปเปิลจะเพิ่มเซ็นเซอร์ gyroscopic มาให้คอเกมสามารถเล่นเกมได้หลายหลายบนความสามารถในการตรวจจับความเคลื่อนไหว ของเครื่องได้อย่างอัจฉริยะยิ่งขึ้น รวมถึงกระแสข่าวว่า แอปเปิลอาจจะเปลี่ยนใจมาใช้พอร์ท mini-USB แทนพอร์ตเชื่อมต่อแบบเข็ม 30-pin ที่แอปเปิลใช้กับ iPad รุ่นแรก บนน้ำหนักเครื่องที่คาดว่าจะเบาบางยิ่งขึ้น

คุณสมบัติของ iPad 2 และเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ไอแพด 2


  • iPad 2 จะพร้อมขายในวันที่ 11 มีนาคม ในอเมริกา และ 25 มีนาคมสำหรับประเทศอื่น
  • iPad 2 จะมาพร้อมหน้าจอ LED Backlit ขนาด 9.7 นิ้ว บนเทคโนโลยี IPS โดยในส่วนของความละเอียดยังอยู่เท่าเดิมที่ 1024×768 พิกเซล 132ppi
  • ในส่วนของสเปกชิปจะขับเคลื่อนด้วย Apple A5 ความเร็ว 1GHz แบบ Dual Core ซึ่งเร็วกว่าเดิมถึง 2 เท่า
  • ในส่วนของกราฟิกเร็วกว่าเดิม 9 เท่า
  • iPad 2 บางเพียง 8.8 มิลลิเมตร ในขณะที่ตัวเก่าบาง 13.4 มิลลิเมตร
  • มาพร้อมความจุ 16, 32 , 64GB ในเวอร์ชัน WiFi และ 3G+WiFi เหมือนรุ่นแรก
  • ในส่วนของราคาจะอยู่ที่ 499$ สำหรับความจุ 16GB, 599$ สำหรับความจุ 32GB และ 699$ สำหรับความจุ 64GB โดยiPad 2 จะมี 2 สีได้แก่ สีขาว และดำ
  • Wi-Fi + 3G model: UMTS/HSDPA/HSUPA (850, 900, 1900, 2100 MHz); GSM/EDGE (850, 900, 1800, 1900 MHz)
  • Wi-Fi + 3G for Verizon model: CDMA EV-DO Rev. A (800, 1900 MHz)
  • Built-in 25-watt-hour rechargeable lithium-polymer battery
  • Up to 10 hours of surfing the web on Wi-Fi, watching video, or listening to music
  • ไม่มี Card Reader Slot และ USB Port อย่างที่หลายคนคาดหวัง
  • มีระบบ Gyro-Scope
  • มีกล้องหน้า-หลัง จะรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 720p ที่จำนวนเฟรมเรต 30 เฟรมต่อวินาที ในส่วนกล้องหน้าจะรองรับความละเอียด 640×480 ที่ความเร็วเฟรมเรต 30 เฟรมต่อวินาทีเช่นกัน
  • มาพร้อม iOS 4.3
  • ประเทศไทยยังไม่มีกำหนดวางขาย คงต้องรออีกสักพัก
  • ในส่วนการรองรับภาพและเสียง iPad 2 สามารถเล่นไฟล์เสียงที่เข้ารหัส Dolby Digital 5.1 ได้โดยการเชื่อมต่อผ่าน Apple Digital AV Adapter
  • ยังสามารถเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดสูง 1080p ผ่าน Apple Digital AV Adapter หรือ Apple VGA Adapter (cables sold separately) 
  • iPad 2 จะสามารถเชื่อมต่อแบบพอร์ต HDMI ได้เช่นกัน โดยอุปกรณ์ต่อพ่วง HDMI จะมีสนนราคาอยู่ที่ $39
 ที่มา http://witternews.com/ipad-2-app-application-specification/