Music Hit In your life

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ทำเงินบนโลกไอที (23) : แตกต่างด้วย QR Code


หลายคนสงสัยว่าภาพกราฟฟิกรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีขาวดำแปลกตาในนิตยสารหรือในห่อขนมนั้นคืออะไร มีประโยชน์อะไร และสามารถนำไปต่อยอดได้อย่างไร ทำเงินบนโลกไอทีสัปดาห์นี้จะมาตอบคำถามเหล่านี้ทั้งหมด รวมถึงวิธีที่คุณเองจะมี QR Code ของตัวเองไว้ได้ง่ายๆ ซึ่งนี่เองคือหนทางที่อาจทำให้หลายธุรกิจสร้าง brand ได้ในเวลาไม่กี่นาที


***สร้าง brand ให้แตกต่างด้วย QR Code
(บทความโดย ปภาดา อมรนุรัตน์กุล @goople)


QR Code ฟังชื่อนี้แล้ว หลายๆ คนอาจะยังไม่คุ้นเคยกับมันเท่าไรนัก แต่จริงๆ แล้ว QR Code เกิดขึ้นมานานมากแล้วตั้งแต่ปี 1994 ในประเทศญี่ปุ่น ผู้ผลิตคือ บริษัท Denso-Wave แล้วเจ้า QR Code มันคืออะไร มันคือ บาร์โคดแบบ 2 มิติ (2D BarCode) ย่อมาจาก “Quick Response” หรือการตอบสนองอย่างรวดเร็ว อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า ที่ญี่ปุ่นนั้น ทำงานอะไรต้องคล่องแคล่ว ว่องไว และทันสมัยในทุกๆ เรื่อง เจ้า QR Code ก็สามารถตอบสนองในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

สิ่งที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นนาทีนี้ คือ ถุงขนม, หนังสือ หรือป้ายร้านข้างทางต่างมีสัญลักษณ์แบบนี้ไว้เพื่อให้ประชาชนสามารถ scan เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมที่ต้องการได้ในทันที ที่สำคัญ QR Code กลายเป็นเครื่องมือการตลาดชั้นยอดทั้งใน magazine หรือ Bill board

ในประเทศไทยเราเองก็ไม่น้อยหน้า เริ่มเห็นมีการใช้ QR Code กันบ้างแล้ว (แม้จะช้ากว่าที่ญี่ปุ่นเป็นสิบปีก็ตาม >.<) คนไทยหลายคนได้พบเห็น QR Code จากห่อขนมที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว บางคนได้อ่านนิตยสารที่มี QR Code ทั้งเล่มซึ่งเป็น Free magazine รายเดือน, ได้ร่วมงานอีเวนท์ที่ติดป้ายชื่อของผู้เข้าร่วมงานทุกคนด้วยรหัส QR Code, ได้เห็นแคมเปญ “Fun Living Lifestyle” ที่ Truemove ใช้ QR Code มาเป็นสีสันเพื่อแจก iphone และยังสามารถใช้ QR Code ได้ทั้งที่สยามและหัวหินอีกด้วย อุปกรณ์ที่ต้องมีในการอ่าน QR Code ก็คือ โทรศัพท์มือถือติดกล้อง และ application ที่ใช้ในการอ่าน QR Code ซึ่งแต่ละ application นั้นในหน้าเว็บจะมีบอกคุณสมบัติว่ามือถือรุ่นใดสามารถใช้งานได้บ้าง ซึ่ง application QR Code reader ที่นิยม download มาติดตั้งลงบนมือถือ ให้มือถือธรรมดากลายเป็นเครื่องสแกน QR Code เลยก็คือ 1.Kaywa โดยตรวจสอบรุ่นโทรศัพท์ที่สามารถใช้งานได้ ที่ http://reader.kaywa.com/getit และ download ได้ที http://reader.kaywa.com 2.Quickmark ตรวจสอบและdownload ได้ที่ http://www.quickmark.com/tw/en/basic/download.asp 3.I-nigma ตรวจสอบรุ่นโทรศัพท์ที่สามารถใช้งานได้ ที่ http://www.i-nigma.com/personal/devices.asp และ download ได้ที่ http://www.i-nigma.com/personal/getreader.asp 4.Jaxo system โดยตรวจสอบรุ่นโทรศัพท์ที่สามารถใช้งานได้ ที่ http://www.jaxo-systems.com/download/index.php?lang=en_US&app=barsnap download ได้ที http://www.jaxo-systems.com/download/index.php?lang=en_US 5.Active print download ได้ที่ http://www.activeprint.org/download.html สำหรับผู้ใช้ Blackberry แล้วต้องการจะลงโปรแกรม QR Code นั้น ขอแนะนำโปรแกรม BeeTagg เพราะสะดวกและใช้งานง่าย มีแต่ยังมีข้อเสียคือ ไม่สามารถอ่าน QR Code ที่เป็นภาษาไทยได้ หรือ โปรแกรม upCode ที่สามารถใช้ได้กับ blackberry บางรุ่นเท่านั้น น่าดีใจที่เทคโนโลยี QR Code นี้ได้ถูกบรรจุไว้อยู่ในเครื่อง BlackBerry เวอร์ชันใหม่เรียบร้อยแล้ว ด้วยการทำ BB Pin ให้เครื่อง BB ด้วยกันสามารถ Scan Pin BB ได้อัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องจำรหัส Pin ให้ยุ่งยากอีกต่อไป ถ้าไม่ต้องการลงโปรแกรมเลย ก็สามารถใช้ตัว Scan BarCode ที่มีมาให้อยู่แล้วในเครื่อง Blackberry ได้เลย แต่ในรุ่น Curve 8520 นั้น กล้องจะ focus ไม่ดีทำให้อ่าน QR Code ยากสักนิดค่ะ สำหรับผู้ที่ใช้ iPhone แนะนำโปรแกรม Quickmark หรือ i-nigma เพื่อใช้งานในการอ่าน QR Code ต่างๆ เราสามารถทำตัวของเราให้เป็น QR Code ได้ด้วยการเข้าสู่เว็บไซต์หลายแห่ง เช่น QRCode.kaywa.com/, http://www.QRstuff.com/ หรือ http://zxing.appspot.com/generator/ โดยการทำ QR Code นั้นส่วนใหญ่จะมีลักษณะ 4 แบบให้เลือกคือ URL, Text, Phone Number และ SMS แต่สำหรับ http://zxing.appspot.com/generator/ จะเจ๋งกว่าตรงที่สามารถสร้างเป็น contact information หรือข้อมูลแทนนามบัตรทั้งใบได้เลยใน QR Code เดียว หากคุณมี QR Code ของตัวเอง คุณจะไม่เพียงสามารถนำ QR Code ไปใช้ในการบอกชื่อเว็บไซต์ หรือบอกความเป็นตัวคุณไม่ต่างจากนามบัตรเท่านั้น แต่ยังสามารถเอาไปใช้ร่วมกับ 4square ซึ่งเป็นบริการให้ข้อมูลท้องถิ่นหรือ Location-based service ที่มาแรงมาในขณะนี้อีกด้วย ซึ่งหากระบบพบ QR Code ในสถานที่ใดที่เป็นป้าย 4square อยู่ ผู้ใช้ก็สามารถ check-in ได้ทันที โดยวิธีการให้ลูกค้า Check-in นั้นมีหลายวิธี เช่น พิมพ์ QR -Code ออกมาแปะไว้ในร้าน ให้คนที่มารู้แล้วสามารถ Check-in ได้ ผู้สนใจสร้าง QR-Code ของหน้าร้านหรือธุรกิจของตัวเอง ต้องไป "เพิ่มสถานที่ Add venue" ของสถานที่ก่อน แล้วไปที่เว็บ http://QRcheck.in/ แล้วใส่ Venue ID ของเราลงไป ระบบจะสร้าง QR-Code ให้ทันที QR Code ที่ดีนั้น ไม่ควรนำมาจัดวางติดกันมากเกินไป เพราะจะทำให้เวลา Scan BarCode ขัดข้อง และถ้าถามว่า QR Code ที่มีอยู่นี้ ดูไม่สวยงามเอาเสียเลย เพราะเราไม่สามารถอ่านด้วยตาเปล่าต้องใช้โปรแกรมอ่านเท่านั้น จึงจะรู้ว่า QR Code ที่ว่าหมายถึงอะไร ดังนั้นในปัจจุบันได้มีการพัฒนาขึ้นอีกแล้วค่ะ โดยการใช้เทคโนโลยี image หรือที่เรียกกันว่า ColorCode ซึ่งเป็นการอ่านสัญลักษณ์ของภาพที่ไม่ใช่ ขาว-ดำ อีกต่อไป และยังสามารถสร้าง brand ให้กับแต่ละบริษัทได้ดีมากขึ้นอีกด้วย แต่จะเข้ามาในประเทศไทยอีกเมื่อไรนั้น คงติดตามกันต่อไป เพราะ QR Code แบบธรรมดา ก็เพิ่งจะมีกระแสมาแรงในช่วงนี้เท่านั้นเอง เอาง่ายๆ ตอนนี้ ถ้าเราจะใช้ QR Code ก็ลองใช้ความสามารถที่เป็นลักษณะการเขียนข้อความลงไป แล้วส่งข้อความไปบอกรักใครสักคนผ่าน QR Code ในวันวาเลนไทน์นี้ดูกันก่อนไหมค่ะ ทำได้ตามโปรแกรมข้างต้นเลย ทดลองทำ QR Code บอกรักแฟนแบบเท่ห์ๆ เก๋ๆ ไม่ซ้ำใครกันดูนะคะ ^__^ ขอให้สมหวังในรักและธุรกิจที่ทำค่ะ …. ที่มา http://www.norsorpor.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น