Music Hit In your life

วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กว่า 43% เคยถูกหลอกลวงผ่านระบบอินเทอร์เน็ต

ผลวิจัย เด็กไทยร้อยละ 43 เคยโดนรังแกผ่านโลกไซเบอร์ ชี้ต้องป้องกันก่อนเป็นเรื่องใหญ่ ผู้ปกครองต้องรู้เท่าทันให้คำปรึกษา เด็กได้
    
ดร.วิมลทิพย์ มุสิกพันธ์ อาจารย์สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ปัญญา สมาพันธ์เพื่อการวิจัยความเห็นสาธารณะแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับ บริษัท ซีพี ออลล์  จำกัด มหาชน ทำงานวิจัย เรื่อง “ปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติและพฤติกรรมการกระทำความรุนแรงทั้งทางกายภาพและการข่มเหงรังแกผ่านโลกไซเบอร์ของเยาวชนไทย” เพื่อศึกษาทัศนคติและพฤติกรรมการข่มเหงรังแกผ่านโลกไซเบอร์ของเด็กไทย โดยทำการสำรวจเมื่อเดือน ส.ค. ผ่านกลุ่มตัวอย่างเยาวชนไทยอายุ 15-24 ปี จำนวน 2,500 ตัวอย่าง ทุกภูมิภาคของประเทศ ผลการศึกษา พบว่า   มีเด็กร้อยละ 43.1 ระบุว่าเคยถูกรังแกผ่านโลกไซเบอร์มาแล้ว ทั้งการถูกนินทา การ  ด่าทอ ส่งข้อความกวน การนำข้อมูลส่วนตัว ไปเผยแพร่ ล้อเลียน ผ่านช่องทางสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ คือ โทรศัพท์มือถือ และอินเทอร์เน็ต จนผู้ถูกกระทำเกิดความเสียหาย  และมีเยาวชนเพียงร้อยละ 1.9 และ 4.9 เท่านั้นที่นำเรื่องนี้บอกครู และผู้ปกครอง ส่วนอีก 19.8 นำเรื่องนี้บอกกับเพื่อน
    
ดร.วิมลทิพย์ กล่าวต่อว่า การรังแกกันผ่านโลกไซเบอร์ หรือ Cyber-bullying ในต่างประเทศมีมานานและเกิดขึ้นบ่อย จนทำให้เด็กบางคนรู้สึกอับอายจนต้องลาออกจากโรงเรียนหรือฆ่าตัวตาย บางประเทศต้องตั้งหน่วยงานขึ้นมารับผิดชอบโดยตรง สำหรับในประเทศไทยถือว่าเป็นเรื่องใหม่และยังไม่มีหน่วยงานใดเป็นผู้ดูแล อย่างไรก็ตามจากการวิจัยเคยพบเด็กไทยที่ถูกกระทำเหล่านี้ เกิดความอับอายต้องลาออกจากโรงเรียนหรือมีความคิดที่จะฆ่าตัวตายด้วย จึงจำเป็นต้องป้องกัน เพราะเด็กส่วนใหญ่เข้าถึงเทคโนโลยีมากขึ้น ผู้ปกครองถือเป็นส่วนสำคัญที่จะต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยีและให้คำปรึกษากับเด็กได้
    
ด้าน พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และนายกสมาคมผู้   ดูแลเว็บไทย กล่าวว่า การรังแกกันผ่านโลก ไซเบอร์ของเด็กไทยมีเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันมีการสอนให้เด็กใช้คอมพิวเตอร์ในโรงเรียน แต่ไม่มีการสอนให้รู้จักภัยของคอมพิวเตอร์ สถานศึกษาจึงต้องมีการสอนเรื่องนี้เพราะเด็กบางคน รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือยังแยกแยะไม่ได้เมื่อถูกรังแกคิดว่าต้องโต้ตอบกลับ ซึ่งหากเขียนหรือส่งต่อข้อความที่ส่อทำให้ผู้อื่นเสียหาย   จะเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ 2550 โดยมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท.


ที่มา : เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น