Music Hit In your life

วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

แคนนอนทุ่มทุน 5 พันล้านบาทสร้างโรงงานผลิตอิงค์เจ็ทพริ้นเตอร์แห่งใหม่

 บริษัท แคนนอน ไฮ-เทค (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศลงทุน 5 พันล้านบาท (ประมาณ 14,600 ล้านเยน) สร้างโรงงานผลิตอิงค์เจ็ทพริ้นเตอร์แห่งใหม่ ที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของโลก โดยมีกำหนดเริ่มดำเนินการผลิตในเดือนตุลาคม พ.ศ.2554
       
       มร.คาซูฮิโระ คิตามูระประธานกรรมการบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัท แคนนอน ไฮ-เทค (ประเทศไทย) จำกัด มีโรงงานแห่งแรกตั้งอยู่ที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมีการสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ขึ้นที่ จังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นอีกหนึ่งย่างก้าวสำคัญในการขยายการดำเนินธุรกิจในเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ของตลาดโลกที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว แคนนอนมองเห็นว่าตลาดโลกของอิงค์เจ็ทพริ้นเตอร์ ที่โรงงานแห่งใหม่จะดำเนินการผลิตมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก จึงเร่งมือในการสร้างระบบการผลิตอิงค์เจ็ทพริ้นเตอร์ที่สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
       
       แคนนอนหวังว่าโรงงานแห่งที่ 2 นี้ จะช่วยประสานประโยชน์ร่วมกับโรงงานในปัจจุบัน เช่น ในเรื่องการจัดหาชิ้นส่วน การใช้ประโยชน์จากสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างเต็มที่ และแรงงานฝีมือที่มีคุณภาพ
       
       โรงงานอิงค์เจ็ทพริ้นเตอร์แห่งใหม่นี้ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 160 ไร่ อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้ระบบและกระบวนการผลิตที่ทันสมัยระดับโลกของแคนนอน ผลิตเพื่อส่งออก 100% มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 5,500,000 เครื่องต่อปี
       
       ผู้บริหารแคนนอนกล่าวว่า การลงทุนของ บริษัท แคนนอน ไฮ-เทค (ประเทศไทย) จำกัด ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเอื้อประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น การจัดหาชิ้นส่วน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึง การเพิ่มอัตราการว่าจ้างที่จะช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ โดยมีแผนจ้างแรงงานท้องถิ่นสูงถึง 5,000 อัตรา
       
       บริษัท แคนนอน ไฮ-เทค (ประเทศไทย) จำกัด ผลิต และส่งออกอิงค์เจ็ตพริ้นเตอร์ไปทั่วโลก และหลังจากสภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น ส่งผลให้ความต้องการอิงค์เจ็ตพริ้นเตอร์ในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น โดยปลายปี พ.ศ. 2554 แคนนอนมีแผนที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและส่งออกพริ้นเตอร์ให้สูง
ยิ่งขึ้น


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 ตุลาคม 2553 22:12 น.

เอ็มเปย์" จับมือ "เอเชียซอฟท์" บัตรเงินสด วัน-ทู-คอล เติมเงินเกมออนไลน์

"เอ็มเปย์" จับมือ "เอเชียซอฟท์" ขยายบริการบัตรเงินสด วัน-ทู-คอล ให้สามารถนำไปเติมเงินเข้าสู่เกมออนไลน์ในเครือฯเอเชียซอฟท์และเพลย์พาร์คได้ทุกเกม ผู้บริหารชี้เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้แก้ผู้เล่นเกม แถมยังช่วยขยายช่องทางการเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ
       
       วันนี้ (11 ต.ค.) บริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด ร่วมกับบริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวความร่วมมือในการขยายบริการของบัตรเงินสด วัน-ทู-คอล ให้สามารถนำมาเติมเงินเข้าสู่เกมออนไลน์ของเอเชียซอฟท์รวมถึงเกมออนไลน์ของเพลย์พาร์คได้
       
       นายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท กรรมการผู้จัดการบริษัท แอดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด ระบุว่า ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ แอดวานซ์ เอ็มเปย์ มองเห็นโอกาสในการทำตลาดกลุ่มคนเล่นเกม จึงได้มีการขยายบริการของบัตรเงินสด วัน-ทู-คอล ให้ครอบคลุมในวงกว้างมากขึ้น ด้วยการจับมือกับเอเชียซอฟท์ เจ้าตลาดเกมออนไลน์อันดับ 1 ของประเทศไทย โดยบัตรเงินสด วัน-ทู-คอล จะสามารถเติมเงินเข้าสู่เกมออนไลน์ของเอเชียซอฟท์ได้ทุกเกม
       
       นายสุปรีชา เปิดเผยอีกว่า ผู้เล่นเกมจะได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถหาซื้อบัตรเงินสด วัน-ทู-คอล ได้อย่างง่ายดายจากจุดขายหลายช่องทาง อาทิ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ , ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต , เซเว่น อีเลเว่น , เทสโก้โลตัส , คาร์ฟู , พาวเวอร์บาย , ร้านบีเทรนด์ , ที่ทำการไปรษณีย์และ ธกส. รวมทั้งสิ้นกว่า 8,000 จุดทั่วประเทศ
       
       นายกิตติพงศ์ พฤกษอรุณ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เอเชียซอฟท์ดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ดังนั้นจึงหาบริการใหม่ๆมามอบให้กับลูกค้าอยู่เสมอ ซึ่งการจับมือกับแอดวานซ์ เอ็มเปย์ เพื่อให้ผู้เล่นเกมสามารถใช้บัตรเงินสด วัน-ทู-คอล เติมเงินเข้าสู่เกมออนไลน์ได้ ถือเป็นการเพิ่มช่องทางและจะช่วยให้ผู้เล่นได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
       
       นายกิตติพงศ์ ระบุอีกว่า ปัจจุบันถึงแม้ว่าเอเชียซอฟท์จะมีการจำหน่ายบัตรเติมเงินเกมออนไลน์ที่ใช้ชื่อว่า "เอแคช" อยู่แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่เกิดปัญหาแต่อย่างใด เนื่องจากบัตรเงินสด วัน-ทู-คอล จะเข้ามาช่วยเติมเต็มในช่องทางการขายที่เอแคชไปไม่ถึง อาทิ ที่ทำการไปรษณีย์และ ธกส. ขณะเดียวกันราคาบัตรทั้งสองแบบก็ต่างกัน ทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกซื้อในราคาที่เหมาะสมได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ยังเป็นร่วมมือกันแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งเกมของเอเชียซอฟท์จะไม่ทำธุรกรรมกับบัตรเงินสดรายอื่น ขณะเดียวกันในส่วนของบัตรเงินสด วัน-ทู-คอล ก็จะไม่สามารถนำไปเติมเงินเกมออนไลน์ของบริษัทเกมอื่นเช่นกัน
       
       ทั้งนี้ บัตรเงินสด วัน-ทู-คอล มีหลายราคาให้ได้เลือกซื้อตามความเหมาะสม อาทิ 50 , 100 , 300 และ 500 บาท ปัจจุบันสามารถใช้ได้กับบริการต่างๆดังนี้
       - เติมเงินโทรศัพท์ วัน-ทู-คอล
       - ชำระค่าบริการ บัดดี้ บรอดแบรนด์
       - ชำระค่าโทรศัพท์ระหว่างประเทศ Connect Talk
       - ซื้อชั่วโมงอินเตอร์เน็ตของ CS LOXINFO
       - ชำระค่าบริการบนเว็บไซต์ hunsa.com
       - เติมเงินเกมออนไลน์ทุกเกมของ เอเชียซอฟท์และเพลย์พาร์ค ยกเว้น RO Airtim


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 ตุลาคม 2553 17:51 น.

กูเกิลเต็มที่ เปิดตัวกล่องรับสัญญาณ Google TV



        หลังจากเป็นข่าวมานาน ล่าสุดโลจิเทค (Logitech) เปิดตัวอุปกรณ์ต่อพ่วงโทรทัศน์ในระบบ "Google TV" รุ่นแรกอย่างเป็นทางการ เพื่อให้แฟนละครรายการทีวีอเมริกันสามารถเพลิดเพลินกับคอนเทนต์ออนไลน์เต็มที่ มีกำหนดจำหน่ายจริงปลายเดือนตุลาคมนี้ สนนราคากล่องรับส่งสัญญาณระบบ Google TV อยู่ที่ 300 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 9,000 บาท
       
       Gerald Quindlen ประธานกรรมการบริหารโลจิเทค ผู้ผลิตคีย์บอร์ด เว็บแคม และนานาอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์สัญชาติสวิส ให้สัมภาษณ์ว่านานาผลิตภัณฑ์สำหรับระบบ Google TV จากโลจิเทคจะทำให้ห้องนั่งเล่นของผู้ใช้เปลี่ยนไป โดยในงานเปิดตัว โลจิเทคนำเสนอกล่องเซ็ตท็อบบ็อกซ์ Logitech Revue (300 เหรียญ), Mini Controller รีโมทคอนโทรล์ไร้สายขนาดเท่าเครื่องปาล์ม (130 เหรียญ), อุปกรณ์ทีวีคาเมราหรือชุดกล้องดิจิตอลเพื่อการทำวิดีโอคอนเฟอร์เรนซิงบนทีวี (150 เหรียญ) และคีย์บอร์ดที่จะถูกพ่วงไปกับ Revue จะวางจำหน่ายแยกต่างหากในราคา 100 เหรียญ
       
       สำหรับระบบ Google TV ถูกเปิดตัวครั้งแรกในงานประชุมนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่กูเกิลจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมในซานฟรานซิสโก รองประธานฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์ของกูเกิล Mario Queiroz ระบุว่าระบบนี้เป็นการรวมพลังของระบบค้นหา เว็บเบราว์เซอร์ และแอปพลิเคชันแอนดรอยด์ (Android) บนทีวีโทรทัศน์ โดยระบุว่า กูเกิลภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกับโลจิเทคและโซนี่ในการนำเสนออุปกรณ์ Google TV ชุดแรก เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงเว็บไซต์และทีวีได้ง่ายยิ่งขึ้น
       
       นี่คือความเคลื่อนไหวล่าสุดหลังจากกูเกิลประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ว่าเว็บไซต์และสถานีวิทยุโทรทัศน์ชื่อดังอย่าง Amazon, NBA, Netflix, New York Times, NBC Universal, USA Today และอีกหลายแห่งจะร่วมกันให้บริการคอนเทนท์บนระบบ Google TV โดยผู้สนใจซื้อทีวีจากโซนี่หรืออุปกรณ์ต่อพ่วง Google TV จากโลจิเทค จะต้องเข้ามาศึกษาวิธีการสั่งซื้อที่เว็บไซต์ Google.com/TV


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 ตุลาคม 2553 18:45 น.

วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553

หนุ่มอัจฉริยะวัย 17ปี นักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ฟ้องสื่อถูกครูแย่งรางวัล

[โอเคเนชั่น] รายงานว่า พ่อนักเขียนและพัฒนาซอฟต์แวร์ ดีกรีรองแชมป์ "ไทยแลนด์ ไอซีที อวอร์ด 2010" ร้องสื่อขอความเป็นธรรม หลังครูในโรงเรียนแย่งรับรางวัลเชื่อเอาผลงานไปขอเลื่อนตำแหน่ง ถึงขั้นข่มขู่ สะกดรอย ล่าสุดเกรงกลัวถูกทำร้ายต้องแจ้งความและลาออกจากโรงเรียน ครูโต้เข้าใจผิดไม่คิดแย่งผลงานเด็กพร้อมขอโทษหากเข้าใจผิด        
 หากพูดถึงชื่อ "ฮง" หรือ นายพีรพัทธ์ นันนารารัตน์ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า บุคคลในแวดวงโปรแกรมเมอร์จะรู้จักเขาเป็นอย่างดี ในฐานะเด็กอัจฉริยะด้านการเขียนโปรแกรม 3 มิติ หรือ 3 ดี อีกทั้งยังมีตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์ความรู้เชิงนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ และรางวัลรองชนะเลิศแชมป์รายการ "ไทยแลนด์ ไอซีที อวอร์ด 2010" พ่วงท้ายอีกด้วย
               แต่ทว่าชีวิตเด็กหนุ่มนักโปรแกรมเมอร์อนาคตไกลต้องสะดุดลง เมื่อครูในโรงเรียนแอบเอาผลงานจากความคิดสร้างสรรค์ของเขาไปสร้างมูลค่าให้ตัวเองและเมื่อทวงถามความชอบธรรมจากครูกลับถูกข่มขู่จนต้องลาออกจากโรงเรียน
               นายพีรพัทธ์ นักเล่นเกมที่พัฒนาตัวเองจนเป็นนักสร้างโปรแกรมเกม และเริ่มส่งผลงานเข้าประกวดตามทัวร์นาเมนต์ต่างๆ จนได้รับรางวัลมากมายนับครั้งไม่ถ้วนเมื่อ 4 ปีก่อน จากรางวัลชมเชยการพัฒนาซอฟต์แวร์เกมลดโลกร้อน Confused Way การประกวดเกมและสื่อสร้างสรรค์ในระดับสากล โดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (ตุลาคม 2551) สู่รางวัลชนะเลิศออกแบบและกำลังพัฒนาซอฟต์แวร์เกม Different Era การประกวดเกมส่งเสริมวัฒนธรรมไทย จาก Thailand Game Show 2009 (มกราคม 2552) จนได้รับความไว้วางใจเป็นหัวหน้าคณะผู้พัฒนาโครงการเมฆา โครงการสนับสนุนการพัฒนาเกมโอเพ่นซอร์ส ในสังกัดสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (2552-2553)
               ล่าสุด เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ยังคว้ารางวัลรองชนะเลิศการพัฒนาซอฟต์แวร์สร้างแบบจำลองและผลิตภัณฑ์สามมิติ Open 3 D Virtual Space Studio ในการประกวดผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2553 (Thailand ICT Award 2010) ประเภท Secondary Student Projects โดยได้รับสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนประเทศไทย ไปประกวดในระดับเอเชีย-แปซิฟิก Asia-Pacific ICT Alliance Award (APICTA) 2010 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย
             แล้วปมความขัดแย้งระหว่างครูกับศิษย์ก็เริ่มเกิดขึ้นชัดเจนเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ในวันประกาศผลรางวัล Thailand ICT Award 2010 ในระดับ Secondary Student Project โดยสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โครงการ "Open 3D Virtual Space Studio" ที่นายพีรพัทธ์ ร่วมทำกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ Mr. Michael Tomaino ประเทศสหรัฐอเมริกา คว้ารางวัลรองชนะเลิศ
             ระหว่างพิธีประกาศผลรางวัล นายพีรพัทธ์ถูกเชิญขึ้นไปรับรางวัลเช่นเดียวกับผู้ได้รับรางวัลรายอื่นๆ แต่แปลกที่ครูผู้นำคณะนักเรียนไปร่วมงานวันนั้นได้แทรกตัวขึ้นไปรับรางวัลแทน สร้างความกังขาให้แก่ทุกคน อย่างไรก็ตาม ภาพขณะกำลังรับรางวัลครั้งนี้ มีผู้ทำคลิปวิดีโอเผยแแพร่ทางอินเทอร์เน็ต สังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ก ก็เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาด้วยเช่นกัน และหลังจากครูรับรางวัลจากประธานในพิธีแล้วก็นำรางวัลไปเก็บไว้เอง โดยอ้างว่าจะมอบโล่รางวัลนี้แก่ผู้อำนวยการโรงเรียนหน้าเสาธง และจะทำโล่รางวัลของเทียมให้ใหม่
            พีรพัทธ์ ยืนยันว่า ตั้งแต่เดินสายประกวดการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ไม่เคยได้รับการสนับสนุนจากโรงเรียนเลย ทุกเวทีการประกวดจะเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด อาจจะมีแค่เพียงใบสมัครที่ต้องกรอกว่าศึกษาอยู่ที่โรงเรียนใด นอกจากนี้ โรงเรียนยังไม่มีการสอนวิชาการเขียนโปรแกรม ผลงานทุกชิ้นที่สร้างสรรค์ขึ้นมาจากหนังสือที่หาซื้อมาเอง และเรียนรู้จากเพื่อนๆ โปรแกรมเมอร์ชาวต่างชาติที่แลกเปลี่ยนข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
             "ปัญหาของผมกับคุณครู เริ่มมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ครูมักอ้างว่าเป็นผู้สนับสนุนทางวิชาการให้ผม เหมือนต้องการเอาผลงานไปแอบอ้างเป็นผลงานปลายปี แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่มีหลายๆ เรื่อง ที่ยังตะขิดตะขวงใจ เวลามีงานนิทรรศการโชว์ผลงาน คนถามว่าผลงานของผมหรือครู เขามักจะบอกว่า ผมนั้นไอคิวต่ำงานที่ออกมานั้นเขาเป็นคนช่วยเหลือ" พีรพัทธ์ ยังข้องใจ


               ส่วนโล่รางวัลล่าสุดที่ถูกครูยึดไปนั้น เมื่อ นายอิทธิธรรม นันนารารัตน์ บิดา ทราบเรื่อง จึงไปสอบถามข้อเท็จจริงที่โรงเรียน แต่กลับถูกต่อว่าอย่างเสียๆ หายๆ จึงทำหนังสือร้องเรียนถึงผู้อำนวยการโรงเรียนแต่ไม่มีอะไรคืบหน้า แถมครูคนดังกล่าวและสามี ซึ่งเป็นครูโรงเรียนเดียวกัน ยังนำเรื่องที่เกิดขึ้นพูดตามชั้นเรียน กล่าวหาว่าเด็กหนุ่มนักพัฒนาโปรแกรมเป็นคนก้าวร้าว ตลอดจนมีการข่มขู่ถึงผลการเรียนจนหมดกำลังใจมาโรงเรียน จึงตัดสินใจให้ลูกชายลาออกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา
                นายอิทธิธรรมบอกว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม เวลาประมาณ 11.00 น. ครูในโรงเรียนคนหนึ่งใช้โทรศัพท์หมายเลข 081-806-XXXX โทรศัพท์เข้ามาขู่ประมาณ 16 นาที ให้ยุติเรื่องร้องเรียนและระงับเรื่องร้องเรียนต่างๆ นานา เกี่ยวกับครูสองสามีภรรยา แต่หากไม่ทำตามจะเกิดปัญหากับลูกชายจะทำให้เสียประวัติ
                "ลองนึกดูหัวอกความเป็นพ่อเป็นแม่ ได้ยินครูผู้อบรมสั่งสอนลูกเราให้ได้มีวิชา มีความรู้ติดตัวมาขู่อาฆาต ใครจะทนได้ ที่ผ่านมาก็ทนมาเยอะแล้ว แต่ครั้งนี้มันมากเกินไป ผมเลยไปลาออกให้ลูกไปเรียนที่อื่น ก่อนหน้านี้ ผมเคยขอเข้าพบผู้อำนวยการเพื่อร้องเรียนให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของครูสุภาวดี แต่ไม่ได้รับการร่วมมือจากครูที่นี่เลย" นายอิทธิธรรมกล่าว
                 อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 1 กันยายน นายพีรพัทธ์ได้แจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางชัน ถึงกรณี ครูซึ่งเป็นคู่กรณี นำเอาชื่อเขาไปต่อว่าตามชั้นเรียนต่างๆ จนเป็นเหตุให้คนในโรงเรียนเข้าใจว่า เขาเป็นคนก้าวร้าวไม่มีสัมมาคารวะ และวันเดียวกัน นายอิทธิธรรมได้แจ้งความและลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางชัน เนื่องจากรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตหลังจากที่เข้าไปยื่นเรื่องร้องเรียนครูหลายครั้ง และมีรถจักรยานยนต์รับจ้างสะกดรอยตามมาจากโรงเรียนอยู่เสมอ
                  ด้านครูที่ถูกกล่าวหาชี้แจงว่า น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับกรณีที่มีคลิปวิดีโอวันที่รับรางวัลถูกเผยแพร่อยู่ในอินเทอร์เน็ต ซึ่งคลิปดังกล่าวเป็นเพียงบางส่วนของมุมกล้องมุมเดียว ภาพที่เห็นอาจตรงข้ามกับความเป็นจริงจนเกิดความเข้าใจผิด ที่สำคัญไม่เคยคิดที่จะแย่งรางวัลหรือผลงานของเด็กเลย
                "ความจริงวันนั้น ฮงมาบอกว่าให้ไปฟังการตัดสินรางวัล ไทยแลนด์ ไอซีที อวอร์ด 2010 จึงพาเขาไป เมื่อมีการประกาศผลรางวัล มีชื่อเขาและชื่อโรงเรียน จึงบอกว่าเดี๋ยวเราขึ้นไปพร้อมกันให้ผู้มอบยืนตรงกลางรูปจะได้ออกมาสวย แต่ครูแก่แล้วเดินช้าไม่มีแว่นตา เห็นจากคลิปเขายังหันมามองครู ยังห่วงครูเลย ตอนนั้นรับรางวัลพร้อมกัน แต่ตอนถ่ายรูปครูให้เขายืนดีๆ รูปที่ออกมาจะได้สวยๆ ไม่ได้ผลัก ส่วนเรื่องการที่เก็บถ้วยรางวัลนั้นก็เข้าใจผิดกัน เพราะใจจริงต้องการจะทำประกาศเกียรติคุณเพื่อมอบให้อีกครั้งหนึ่งหน้าเสาธง" ครูผู้ถูกกล่าวหากล่าว
                ครูคนเดียวกันบอกว่า ลูกศิษย์ทุกคนก็เหมือนลูกพยายามจะผลักดันให้มีอนาคตที่ดี อย่างนายพีรพัทธ์ก็ช่วยเหลือให้ได้เรียนสายวิทยาศาสตร์ ทั้งที่เกรดไม่ถึงเกณฑ์ แต่เห็นว่ามีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ ที่ผ่านมาได้สนับสนุนทุกเรื่องเกี่ยวกับการแข่งขันเมื่อถูกร้องขอ แต่เพิ่งรู้ว่าครอบครัวของเขายื่นหนังสือร้องเรียน และมีการเผยแพร่เรื่องราวต่างๆ บนเว็บไซต์ด้วย
               "รู้สึกเสียใจมากที่เขาเห็นความหวังดีของเราเป็นทางลบ แต่ครูไม่โกรธและอโหสิกรรมให้ ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร ครูก็คือผู้ให้ ครูไม่ฆ่าลูกศิษย์ ไม่อยากเป็นข่าวเหมือนกับดาราที่มาเถียงกันว่าลูกใคร อยากให้ไปเปิดคลิปดู ซึ่งเรื่องเข้าใจผิดนี้ครูเคยขอโทษเขาแล้วและอธิบายว่าไม่มีเจตนา แต่เขาก็ยังไม่พอใจ ครูเองก็น้อยใจ เคยพูดต่อหน้าคนหลายคนด้วยว่า ครูขอโทษเธอแล้วไม่พอ หรือจะต้องให้ครูกราบเท้า คนอย่างเธอมันเนรคุณ แต่สิ่งที่พูดไป ก็เพราะว่าเรารักเขามาก" ครูกล่าวทั้งน้ำตา

ที่มา : http://www.oknation.net/blog/Sp-Report/2010/10/11/entry-10