[โอเคเนชั่น] รายงานว่า พ่อนักเขียนและพัฒนาซอฟต์แวร์ ดีกรีรองแชมป์ "ไทยแลนด์ ไอซีที อวอร์ด 2010" ร้องสื่อขอความเป็นธรรม หลังครูในโรงเรียนแย่งรับรางวัลเชื่อเอาผลงานไปขอเลื่อนตำแหน่ง ถึงขั้นข่มขู่ สะกดรอย ล่าสุดเกรงกลัวถูกทำร้ายต้องแจ้งความและลาออกจากโรงเรียน ครูโต้เข้าใจผิดไม่คิดแย่งผลงานเด็กพร้อมขอโทษหากเข้าใจผิด
หากพูดถึงชื่อ "ฮง" หรือ นายพีรพัทธ์ นันนารารัตน์ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า บุคคลในแวดวงโปรแกรมเมอร์จะรู้จักเขาเป็นอย่างดี ในฐานะเด็กอัจฉริยะด้านการเขียนโปรแกรม 3 มิติ หรือ 3 ดี อีกทั้งยังมีตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์ความรู้เชิงนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ และรางวัลรองชนะเลิศแชมป์รายการ "ไทยแลนด์ ไอซีที อวอร์ด 2010" พ่วงท้ายอีกด้วย
แต่ทว่าชีวิตเด็กหนุ่มนักโปรแกรมเมอร์อนาคตไกลต้องสะดุดลง เมื่อครูในโรงเรียนแอบเอาผลงานจากความคิดสร้างสรรค์ของเขาไปสร้างมูลค่าให้ตัวเองและเมื่อทวงถามความชอบธรรมจากครูกลับถูกข่มขู่จนต้องลาออกจากโรงเรียน
นายพีรพัทธ์ นักเล่นเกมที่พัฒนาตัวเองจนเป็นนักสร้างโปรแกรมเกม และเริ่มส่งผลงานเข้าประกวดตามทัวร์นาเมนต์ต่างๆ จนได้รับรางวัลมากมายนับครั้งไม่ถ้วนเมื่อ 4 ปีก่อน จากรางวัลชมเชยการพัฒนาซอฟต์แวร์เกมลดโลกร้อน Confused Way การประกวดเกมและสื่อสร้างสรรค์ในระดับสากล โดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (ตุลาคม 2551) สู่รางวัลชนะเลิศออกแบบและกำลังพัฒนาซอฟต์แวร์เกม Different Era การประกวดเกมส่งเสริมวัฒนธรรมไทย จาก Thailand Game Show 2009 (มกราคม 2552) จนได้รับความไว้วางใจเป็นหัวหน้าคณะผู้พัฒนาโครงการเมฆา โครงการสนับสนุนการพัฒนาเกมโอเพ่นซอร์ส ในสังกัดสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (2552-2553)
ล่าสุด เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ยังคว้ารางวัลรองชนะเลิศการพัฒนาซอฟต์แวร์สร้างแบบจำลองและผลิตภัณฑ์สามมิติ Open 3 D Virtual Space Studio ในการประกวดผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2553 (Thailand ICT Award 2010) ประเภท Secondary Student Projects โดยได้รับสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนประเทศไทย ไปประกวดในระดับเอเชีย-แปซิฟิก Asia-Pacific ICT Alliance Award (APICTA) 2010 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย
แล้วปมความขัดแย้งระหว่างครูกับศิษย์ก็เริ่มเกิดขึ้นชัดเจนเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ในวันประกาศผลรางวัล Thailand ICT Award 2010 ในระดับ Secondary Student Project โดยสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โครงการ "Open 3D Virtual Space Studio" ที่นายพีรพัทธ์ ร่วมทำกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ Mr. Michael Tomaino ประเทศสหรัฐอเมริกา คว้ารางวัลรองชนะเลิศ
ระหว่างพิธีประกาศผลรางวัล นายพีรพัทธ์ถูกเชิญขึ้นไปรับรางวัลเช่นเดียวกับผู้ได้รับรางวัลรายอื่นๆ แต่แปลกที่ครูผู้นำคณะนักเรียนไปร่วมงานวันนั้นได้แทรกตัวขึ้นไปรับรางวัลแทน สร้างความกังขาให้แก่ทุกคน อย่างไรก็ตาม ภาพขณะกำลังรับรางวัลครั้งนี้ มีผู้ทำคลิปวิดีโอเผยแแพร่ทางอินเทอร์เน็ต สังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ก ก็เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาด้วยเช่นกัน และหลังจากครูรับรางวัลจากประธานในพิธีแล้วก็นำรางวัลไปเก็บไว้เอง โดยอ้างว่าจะมอบโล่รางวัลนี้แก่ผู้อำนวยการโรงเรียนหน้าเสาธง และจะทำโล่รางวัลของเทียมให้ใหม่
พีรพัทธ์ ยืนยันว่า ตั้งแต่เดินสายประกวดการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ไม่เคยได้รับการสนับสนุนจากโรงเรียนเลย ทุกเวทีการประกวดจะเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด อาจจะมีแค่เพียงใบสมัครที่ต้องกรอกว่าศึกษาอยู่ที่โรงเรียนใด นอกจากนี้ โรงเรียนยังไม่มีการสอนวิชาการเขียนโปรแกรม ผลงานทุกชิ้นที่สร้างสรรค์ขึ้นมาจากหนังสือที่หาซื้อมาเอง และเรียนรู้จากเพื่อนๆ โปรแกรมเมอร์ชาวต่างชาติที่แลกเปลี่ยนข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
"ปัญหาของผมกับคุณครู เริ่มมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ครูมักอ้างว่าเป็นผู้สนับสนุนทางวิชาการให้ผม เหมือนต้องการเอาผลงานไปแอบอ้างเป็นผลงานปลายปี แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่มีหลายๆ เรื่อง ที่ยังตะขิดตะขวงใจ เวลามีงานนิทรรศการโชว์ผลงาน คนถามว่าผลงานของผมหรือครู เขามักจะบอกว่า ผมนั้นไอคิวต่ำงานที่ออกมานั้นเขาเป็นคนช่วยเหลือ" พีรพัทธ์ ยังข้องใจ
ส่วนโล่รางวัลล่าสุดที่ถูกครูยึดไปนั้น เมื่อ นายอิทธิธรรม นันนารารัตน์ บิดา ทราบเรื่อง จึงไปสอบถามข้อเท็จจริงที่โรงเรียน แต่กลับถูกต่อว่าอย่างเสียๆ หายๆ จึงทำหนังสือร้องเรียนถึงผู้อำนวยการโรงเรียนแต่ไม่มีอะไรคืบหน้า แถมครูคนดังกล่าวและสามี ซึ่งเป็นครูโรงเรียนเดียวกัน ยังนำเรื่องที่เกิดขึ้นพูดตามชั้นเรียน กล่าวหาว่าเด็กหนุ่มนักพัฒนาโปรแกรมเป็นคนก้าวร้าว ตลอดจนมีการข่มขู่ถึงผลการเรียนจนหมดกำลังใจมาโรงเรียน จึงตัดสินใจให้ลูกชายลาออกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา
นายอิทธิธรรมบอกว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม เวลาประมาณ 11.00 น. ครูในโรงเรียนคนหนึ่งใช้โทรศัพท์หมายเลข 081-806-XXXX โทรศัพท์เข้ามาขู่ประมาณ 16 นาที ให้ยุติเรื่องร้องเรียนและระงับเรื่องร้องเรียนต่างๆ นานา เกี่ยวกับครูสองสามีภรรยา แต่หากไม่ทำตามจะเกิดปัญหากับลูกชายจะทำให้เสียประวัติ
"ลองนึกดูหัวอกความเป็นพ่อเป็นแม่ ได้ยินครูผู้อบรมสั่งสอนลูกเราให้ได้มีวิชา มีความรู้ติดตัวมาขู่อาฆาต ใครจะทนได้ ที่ผ่านมาก็ทนมาเยอะแล้ว แต่ครั้งนี้มันมากเกินไป ผมเลยไปลาออกให้ลูกไปเรียนที่อื่น ก่อนหน้านี้ ผมเคยขอเข้าพบผู้อำนวยการเพื่อร้องเรียนให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของครูสุภาวดี แต่ไม่ได้รับการร่วมมือจากครูที่นี่เลย" นายอิทธิธรรมกล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 1 กันยายน นายพีรพัทธ์ได้แจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางชัน ถึงกรณี ครูซึ่งเป็นคู่กรณี นำเอาชื่อเขาไปต่อว่าตามชั้นเรียนต่างๆ จนเป็นเหตุให้คนในโรงเรียนเข้าใจว่า เขาเป็นคนก้าวร้าวไม่มีสัมมาคารวะ และวันเดียวกัน นายอิทธิธรรมได้แจ้งความและลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางชัน เนื่องจากรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตหลังจากที่เข้าไปยื่นเรื่องร้องเรียนครูหลายครั้ง และมีรถจักรยานยนต์รับจ้างสะกดรอยตามมาจากโรงเรียนอยู่เสมอ
ด้านครูที่ถูกกล่าวหาชี้แจงว่า น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับกรณีที่มีคลิปวิดีโอวันที่รับรางวัลถูกเผยแพร่อยู่ในอินเทอร์เน็ต ซึ่งคลิปดังกล่าวเป็นเพียงบางส่วนของมุมกล้องมุมเดียว ภาพที่เห็นอาจตรงข้ามกับความเป็นจริงจนเกิดความเข้าใจผิด ที่สำคัญไม่เคยคิดที่จะแย่งรางวัลหรือผลงานของเด็กเลย
"ความจริงวันนั้น ฮงมาบอกว่าให้ไปฟังการตัดสินรางวัล ไทยแลนด์ ไอซีที อวอร์ด 2010 จึงพาเขาไป เมื่อมีการประกาศผลรางวัล มีชื่อเขาและชื่อโรงเรียน จึงบอกว่าเดี๋ยวเราขึ้นไปพร้อมกันให้ผู้มอบยืนตรงกลางรูปจะได้ออกมาสวย แต่ครูแก่แล้วเดินช้าไม่มีแว่นตา เห็นจากคลิปเขายังหันมามองครู ยังห่วงครูเลย ตอนนั้นรับรางวัลพร้อมกัน แต่ตอนถ่ายรูปครูให้เขายืนดีๆ รูปที่ออกมาจะได้สวยๆ ไม่ได้ผลัก ส่วนเรื่องการที่เก็บถ้วยรางวัลนั้นก็เข้าใจผิดกัน เพราะใจจริงต้องการจะทำประกาศเกียรติคุณเพื่อมอบให้อีกครั้งหนึ่งหน้าเสาธง" ครูผู้ถูกกล่าวหากล่าว
ครูคนเดียวกันบอกว่า ลูกศิษย์ทุกคนก็เหมือนลูกพยายามจะผลักดันให้มีอนาคตที่ดี อย่างนายพีรพัทธ์ก็ช่วยเหลือให้ได้เรียนสายวิทยาศาสตร์ ทั้งที่เกรดไม่ถึงเกณฑ์ แต่เห็นว่ามีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ ที่ผ่านมาได้สนับสนุนทุกเรื่องเกี่ยวกับการแข่งขันเมื่อถูกร้องขอ แต่เพิ่งรู้ว่าครอบครัวของเขายื่นหนังสือร้องเรียน และมีการเผยแพร่เรื่องราวต่างๆ บนเว็บไซต์ด้วย
"รู้สึกเสียใจมากที่เขาเห็นความหวังดีของเราเป็นทางลบ แต่ครูไม่โกรธและอโหสิกรรมให้ ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร ครูก็คือผู้ให้ ครูไม่ฆ่าลูกศิษย์ ไม่อยากเป็นข่าวเหมือนกับดาราที่มาเถียงกันว่าลูกใคร อยากให้ไปเปิดคลิปดู ซึ่งเรื่องเข้าใจผิดนี้ครูเคยขอโทษเขาแล้วและอธิบายว่าไม่มีเจตนา แต่เขาก็ยังไม่พอใจ ครูเองก็น้อยใจ เคยพูดต่อหน้าคนหลายคนด้วยว่า ครูขอโทษเธอแล้วไม่พอ หรือจะต้องให้ครูกราบเท้า คนอย่างเธอมันเนรคุณ แต่สิ่งที่พูดไป ก็เพราะว่าเรารักเขามาก" ครูกล่าวทั้งน้ำตา
ที่มา : http://www.oknation.net/blog/Sp-Report/2010/10/11/entry-10
อัพเดตความรู้ ข้อมูล ข่าวสารด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ กับเว็บบล็อก http://computertru.blogspot.com
Music Hit In your life
วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553
หนุ่มอัจฉริยะวัย 17ปี นักเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ฟ้องสื่อถูกครูแย่งรางวัล
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
กสทช
(1)
เกมส์คอมพิวเตอร์
(6)
ข่าวสั้นไอที
(3)
ข่าวไอที
(27)
คุณธรรมสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต
(4)
ทิปคอมพิวเตอร์
(13)
เนื้อหา รูปภาพ หรือสื่ออื่นที่ปรากฎเป็นของเจ้าของบทความนั้นๆ
(15)
แนะนำเว็บไซต์
(2)
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
(1)
ระบบเติมเงิน
(1)
ระบบปฏิบัติการ Operating System
(8)
ละเมิด
(1)
Computer IT Technology
(17)
Computer Virus
(7)
Hardware Computer
(32)
Information technology IT
(58)
Network ระบบเครือข่าย
(57)
Software Internet
(28)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น