เนคเทค หยิบวิจัย NVIS ต่อยอด ไอโฟนแอพลิเคชั่น เล็งเปิดตัวปลายปี 54 พร้อมงานวิจัยอื่นๆ ฉลองวันเกิดเนคเทค 25 ปี ขณะที่ เนคเทคเปิดตัวตลาดนัดบริการสารสนเทศ สำหรับนักไอทียุคใหม่…
วันที่ 14 ก.พ. นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้อำนวยการสูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค กล่าวว่า ตลาดนัดบริการสารสนเทศ สำหรับนักไอทียุคใหม่ เกิดจากความร่วมมือระหว่างเนคเทค และประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นการดึงข้อมูลดิจิตอลขนาดใหญ่ระดับชาติ และยกระดับภาคอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ให้เป็นตลาดรวบรวมฐานข้อมูลเทคโนโลยีด้านไอที ของทุกคน เพื่อใช้ด้านการเรียนรู้และการค้นคว้าข้อมูลใหม่ๆ โดยตั้งเป้าว่า ปี 2554-2556 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า จะผลักดันให้เกิดการนำไปใช้ต่อยอด หลังจากได้รวบรวมฐานข้อมูลการวิจัยมากว่า 2 ปี
ขณะที่ นายชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย หัวหน้าห้องปฏิบัติการวิจัยวิทยาการมนุษยภาษา ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค กล่าวว่า หลังจากเนคเทคได้พัฒนา ระบบเอ็นวิส (News Voice Information Service :NVIS) เป็นระบบบริการอ่านข่าวอัตโนมัติออนไลน์ สามารถดึงข้อความข่าวสำคัญๆ จาก RSS Feed ของเว็บไซด์ของแหล่งข่าว เช่น MCOT TPBS ASTV Manger และ CH7 แปลงให้เป็นเสียงพูด โดยผ่านเลขหมาย 02-567-7008 คิดค่าบริการครั้งละ 3 บาท โดยมีกระแสเรียกร้องให้เปิดบริการผ่านไอโฟน เพื่อตอบสนองการรับรู้ข่าวสารรอบด้าน
ขณะเดียวกัน เนคเทคได้ประยุกต์ใช้ระบบดังกล่าว มาปรับเป็นแอพลิเคชั่น ภายใต้ชื่อ ไอโฟนแอพลิเคชั่นอินเทอร์เกต เพื่อให้บริการบนไอโฟน และแอนดรอยด์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนที่ต้องการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร สะดวกสบายขึ้น และไม่ต้องโทรศัพท์เข้าไปผ่านคอลเซ็นเตอร์
หัวหน้าห้องปฏิบัติการวิจัยวิทยาการมนุษยภาษา เนคเทค กล่าวต่อว่า การวิจัยพัฒนาระบบดังกล่าวใช้ระยะเวลากว่า 1 ปี ตั้งแต่ขั้นตอนประยุกต์บนโมบายด์ประมาณ 3-4 เดือน และจัดการระบบประมาณ 6 เดือน โดยมีต้นทุนการทำโมบายด์แอพลิเคชั่นให้โปรแกรมเมอร์ประมาณ 5 หมื่นบาท ซึ่งไม่รวมงานวิจัยก่อนหย้า โดยผู้ใช้บริการสามารถดาวโหลดแอพลิเคชั่นเพื่อใช้บริการได้ เบื้องต้นฟรี แต่ในอนาคตอาจคิดค่าบริการ โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงปลายปี 2554 ซึ่งเป็นวันเกิด และครบรอบ 25 ปีของเนคเทค ในวันที่ 16 ก.ย.2554 พร้อมกับงานวิจัยอื่นๆ ด้วย
“วิธีการใช้งานทำได้ง่ายๆ คือ ไอโฟน ดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น จากแอพสโตล์ มาใช้บนไอโฟนได้เลย หรือถ้าเป็นแอนดรอยด์ จะอยู่บนแอนดรอยด์มาร์เก็ต โดยเบื้องต้นไม่เสียค่าบริการ เพื่อให้ผู้ใช้บริการรับข่าวสารได้สะดวกสบายขึ้น ทั้งเวลาขับรถ หรือทำภาระกิจต่างๆ” นายชัย กล่าว.
ที่มาของข่าว : ไทยรัฐออนไลน์ วันที่ 14 – 02 – 2554
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น